17.00 น. พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ P ประตู 7-8 สายการบิน กาตาร์ แอร์เวยส์ (QR) พบกับเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระในการเดินทาง
20.25 น. ออกเดินทางสู่ เมืองมิวนิค โดยเที่ยวบินที่ QR833 / QR059 แวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์
07.00 น. เดินทางถึง เมืองมิวนิค หลังจากผ่านการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองโฮเฮนชวานเกา เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย เดินทางผ่านเส้นทางที่มีทิวทัศน์อันสุดแสนโรแมนติค ท่ามกลางธรรมชาติของเขาสูง เมืองนี้เป็นที่ตั้งของสองปราสาทสวยงาม คือปราสาทโฺฮเฮนขวานเกา ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าแม็กซิมิเลี่ยนที่ 2 ( พระราชบิดาของพระเจ้าลุควิกที่ 2 ) และปราสาทนอยชวานชไตน์ เป็นปราสาทซึ่งสร้างตามพระจินตนาการส่วนพระองค์ของพระเจ้าลุควิกที่ 2 บริเวณใกล้กันกับปราสาทจะมีทะเลสาบสวยงามที่มีชื่อว่าทะเลสาบแอลป์
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1)
บ่าย นำท่านเดินทางขึ้นปราสาทชมความสวยงามของ ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) โดยรถบัสเล็ก ( หากช่วงที่หิมะตกหนักรถบัสจะหยุดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เนื่องด้วยเพื่อความปลอดภัยทางบริษัทฯ จะนำคณะเดินขึ้น – ลงปราสาท เนื่องจากเวลาหิมะตกทางจะลื่นและอันตราย ) นำเข้าชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว พระเจ้าลุดวิกทรงเป็นบุคคลที่มีลักษณะนิสัยที่ลึกลับเป็นปริศนา (eccentric) และเป็นผู้ที่สิ้นพระชนม์ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างมีเงื่อนงำ สุขภาพจิตของพระองค์ในบั้นปลายอาจจะไม่ปกติแต่ก็ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่เป็นที่ยืนยันได้แน่นอน แต่สิ่งที่ทรงทิ้งไว้เป็นมรดกแก่ชนรุ่นหลังคืองานทางสถาปัตยกรรมที่ทรงก่อสร้างรวมทั้งวังและปราสาทใหญ่โตที่ทั้งหรูหราโอ่อ่าและเต็มไปด้วยจินตนาการราวเทพนิยายหลายแห่ง รวมทั้งปราสาทนอยชวานชไตน์ซึ่งเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก และทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ริชาร์ด วากเนอร์ คีตกวีและนักเขียนดนตรีโอเปร่าคนสำคัญของเยอรมนีชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม โดยการออกแบบของ คริสเตียน แยงค์ จากนั้นนำคณะเดินลงจากปราสาท
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองการ์มิช–พาร์เท่นเคียรเช่น เมืองพักตากอากาศเล็กๆ ทางใต้ของมิวนิคตั้งอยู่กลางเทือกเขาแอลป์ เมืองแสนสวยในหุบเขาของเยอรมันใต้ บ้านเมืองสวยแบบบาวาเรียแท้ ตามผนังของตึกต่าง ๆ ยังเป็นรูปเขียนเรื่องราวในคริสต์ศาสนาที่น่าชมยิ่ง เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาวและยังเป็นศูนย์กลางการแข่งขันกีฬาฤดูหนาว ลานสเก็ตน้ำแข็ง และลู่แข่งสกีโอลิมปิก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2) พิเศษกับเมนูขาหมูเยอรมัน+เบียร์
พักค้างคืน ณ Mercure Hotel Garmisch-Partenkirchen หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 1)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 3)
จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังสถานีรถไฟซุกสปิตเซ่บาห์น Zugspitzebahn เพื่อนำท่านขึ้นรถไฟขึ้นไปยังยอดเขาซุกสปิตเซ่ (Zugspitze) เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน (Top of Germany) อิสระให้ท่านสัมผัสกับลานหิมะและธารน้ำแข็ง จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้าต่อไปยังจุดสูงสุดของยอดเขาซุกสปิตเซ่ ณ ระดับความสูง 2,970 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในแต่ละปีจะมีนักท่องเทียวมาที่นี่ ราว 500,000 คน ด้านบนยอดเขาซุกสปิตเซ่ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้แบบ 360 องศา และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ถึง 4 ประเทศ ทั้งเยอรมัน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี และยังมียอดเขาที่ทอดไกลสุดตาเหนือขุนเขากว่า 400 ยอด
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 4) บนยอดเขา
บ่าย จากนั้นนำท่านกลับลงมาจากยอดเขา เพื่อนำท่านออกเดินทางไปยัง หมู่บ้านโอเบอร์แอมเมอร์เกา Oberammergau เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเยอรมนีตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำ แอมเมอร์ เป็นหมู่บ้านแห่งช่างแกะสลักไม้ เนื่องจากมีงานแกะสลักไม้ที่ขึ้นชื่อและเป็นอาชีพหลักๆ ของคนในหมู่บ้านนี้ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการตกแต่งผนังอาคารบ้านเรือนด้วยภาพเขียนทางศาสนา และวิถีชีวิตแบบชนบทโอเบอร์แอมเมอร์เกา เป็นสถานที่จัดแสดงอุปรากรระดับโลกที่ชื่อว่า The Passion Play ซึ่งเป็นอุปรากรที่ถ่ายทอดเรื่องราวทางศาสนาคริสต์ที่จะจัดขึ้น 10 ปีต่อหนึ่งครั้ง ชาวเมืองนี้ได้แสดงละครเวทีเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ซึ่งนักแสดงส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนในหมู่บ้านโอเบอร์แอมเอมร์เกา อิสระให้ท่านเดินชมบรรยากาศในหมู่บ้านได้อย่างเต็มที่
ได้เวลานัดหมายนำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองซาลสเบิร์ก เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดลำดับที่ 4 ในประเทศออสเตรีย และเป็นเมืองหลวงของรัฐซาลซ์เบิร์ก เมืองเก่าของซาลทซ์บูกร์ก และสถาปัตยกรรมบาโรก เป็นหนึ่งในใจกลางเมืองที่ถูกดูแลรักษาอย่างดีที่สุดในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาเยอรมันด้วยกัน และได้รับการรับรองจากยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ.2540 ซาลซ์เบิร์กเป็นที่จดจำกันในฐานะที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ เมืองแห่งมนเสน่ห์ของเสียงดนตรีและเป็นบ้านเกิดของศิลปินเอกของโลก โวฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5)
พักค้างคืน ณ FourSide Salzburg หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 2)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 6)
จากนั้นนำท่านชมภายใน สวนมิราเบล ที่เคยใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music จากนั้นนำท่านเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำซาลซาค ไปยังย่านถนนคนเดิน นำท่านไปถ่ายรูปบ้านโมสาร์ท จากด้านนอก จากนั้นให้ท่านอิสระเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกของฝาก
จากนั้นท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์ทัทท์ เมืองที่ได้ชื่อว่าตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ฮัลล์ทัทท์เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบฮัลล์ทัทท์ (Lake Hallstatt) หรือ ฮัลล์ชตัทท์เทอร์ซี (Hallstatter See) ทะเลสาบในเขตภูมิภาคซาลซ์คัมเมอร์กุท (Salzkammergut) ภูมิภาคทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรีย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพิเศษสุดกับ เมนูปลาเทร้าย่างเกลือ (มื้อที่ 7)
บ่าย อิสระให้ท่านเดินชมบรรยากาศ เมืองฮัลล์ชตัทท์ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่มีเสน่ห์คือความเงียบสงบสวยงาม จุดเด่นที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยของเมืองริมทะเลสาบสีน้ำเงินแห่งนี้ก็คือ เทือกเขาสูงตระหง่านล้อมรอบทะเลสาบอันนิ่งสงบเอาไว้อย่างนุ่มนวล จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองลินซ์ Linz เมืองใหญ่อันดับสามของออสเตรีย มีที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ เป็นเมืองที่มีความสำคัญและเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย นำท่านชมจัตุรัสกลางเมืองลินซ์ ฮอบท์พลาซ Hauptplatz เป็นจัตุรัสที่คึกคักที่สุดในเมืองลินซ์ มีห้างร้านขายสินค้าต่างๆ ทั้งสินค้าทั่วไป สินค้าพื้นเมืองจนกระทั่งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย บริเวณกลางจัสตุรัสมีเสาหินสีขาวสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการรำลึกการต่อกับโรคระบาดในปี ค.ศ. 1679 และ ค.ศ. 1713 การคุกคามของสงครามในปี ค.ศ. 1683 และ ค.ศ.1703-1704 และเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1712 ชมมหาวิหารเก่า แห่งเมืองลินซ์ Old Cathedral, Linz เป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองลินซ์ ประเทศออสเตรีย สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1669 ถึง 1683 โดยใช้สถาปัตยกรรมสไตล์บาโรก ในการก่อสร้าง อิสระให้ท่านเดินชมบรรยากาศบริเวณจัตุรัสที่รายร้อมไปด้วยอาคารบ้านเรือนสไตล์บาโรกที่สวยงาม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8)
พักค้างคืน ณ Courtyard by Marriott Linz หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 3)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 9)
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองมรดกโลก เชสกี้ครุมลอฟประเทศสาธารณรัฐเช็ก เป็นเมืองเก่าที่แสนสวยและโรแมนติกตั้งอยู่ในวงล้อมของแม่น้ำวัตตาว่า มีปราสาทครุมลอฟซึ่งเป็นปราสาทที่มีการเปลี่ยนมือกันครอบครองจากหลายราชวงศ์ ในยุคกลาง อาทิ โรเซนเบิร์ก ชวาเซนเบิร์ก เอกเก้นเบิร์ก
นำคณะเดินชมจุดชมวิวบริเวณระเบียงของปราสาทครุมลอฟเมืองมรดกโลก ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1250 เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากปราสาทปราก อยู่บนเนินเขาอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ภายในปราสาทแห่งนี้ประกอบไปด้วยห้องต่างๆ ถึง 40 ห้อง ลานปราสาท 5 แห่งและอุทยานอีก 1 แห่งที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา ชมทัศนียภาพของตัวเมืองจากลานหน้าอุทยานบ้านเรือนหลังเล็กหลังน้อย หลังคาสีส้มเรียงรายกันเป็นกระจุกๆเหมือนบ้านตุ๊กตาที่สวยงาม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10)
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ กรุงปราค เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก นำท่านเข้าชมเขตปราสาทแห่งปราค ซึ่งเป็นปราสาทในยุคกลางที่ใหญ่ที่สุด และถือว่าเป็นที่ประทับของกษัตริย์แห่งเชค กษัตริย์แห่งราชวงศ์แฮบบิร์ก พระนางมาเรีย เทเรซ่า แห่งอาณาจักรออสเตรีย ชม มหาวิหารเซนต์วิตุส จากด้านนอก ซึ่งเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็กตั้งชื่อเทิดทูนให้กับเซนต์วิตุส ปัจจุบันปราสาทปราคยังเป็นทำเนียบที่ทำการของประธานาธิบดีของสาธารณรัฐเช็กอีกด้วย และให้ท่านได้บันทึกภาพกรุงปราคทั้งเมือง ณ จุดชมวิว จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่กรุงปราค เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก จากนั้นนำท่านไปยัง สะพานชาลส์ ซึ่งสะพานแห่งนี้จะนำท่านข้ามไปยังย่าน Old Town นำท่านชมย่าน Old Town เขตเมืองเก่าของกรุงปราค ชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ อนุสาวรีย์ยานฮุส ซึ่งอดีตเคยเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยชาลส์ ในยุคของกษัตริย์ที่ 4 จากนั้นให้ท่านอิสระเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกประจำถิ่นได้ ณ เขตเมืองเก่า สินค้าที่ขึ้นชื่อของที่นี่ คือ เครื่องแก้วโบฮีเมีย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 11) พิเศษกับเมนูขึ้นชื่อ เป็ดโบฮีเมี่ยน
พักค้างคืน ณ Corinthia Prague //Ambassador Prague หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 4)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 12)
นำท่านออกเดินทางสู่ กรุงบราติสลาว่า นครหลวงของประเทศสโลวาเกีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศบราติสลาว่า ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสโลวาเกียบน 2 ฝั่งของแม่น้ำดานูบ มีอาณาเขตติดกับประเทศออสเตรียและประเทศฮังการี จึงเป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่มีอาณาเขตติดต่อกับ 2 ประเทศ เมืองนี้และเวียนนายังเป็นเมืองหลวง 2 แห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กันมากที่สุดในยุโรป โดยตั้งอยู่ห่างกันไม่ถึง 60 กิโลเมตร บราติสลาวาเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของสโลวาเกีย เป็นที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี รัฐสภา และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ และยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑ์ โรงละคร หอศิลป์ และสถาบันอื่น ๆ ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการศึกษา รวมทั้งสำนักงานใหญ่ของสถาบันทางธุรกิจและการเงินขนาดใหญ่ของสโลวาเกียเป็นจำนวนมาก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13)
บ่าย นำท่านชมเมืองเก่า ชมประตูไมเคิล จัตุรัสเมืองเก่า ที่ว่าการเมือง โรงละคร โบสถ์เซนต์มาร์ตินอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองบราติสลาว่า ได้เวลานัดหมายนำท่านออกเดินทางสู่ กรุงบูดาเปสต์ เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี และเป็นศูนย์กลางการปกครอง อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการคมนาคมขนส่งของประเทศ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 14) ลิ้มลองซุปกูราซ เข้มข้นที่มีสีแดงสดของพริกปาปริก้า
พักค้างคืน ณ Novotel Budapest City หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 5)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 15)
นำท่านเดินทางผ่านชุมชนโรมันโบราณชม ป้อมปราการฟิชเชอร์แมนบาสเตียน ที่สะท้อนประวัติศาสตร์การสร้างชาติฮังกาเรียน สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของชาวประมงผู้เสียสละชีวิตปกป้องบ้านเมืองในตอนที่ถูกพวกมองโกลรุกรานในปี ค.ศ. 1241-1242 ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1905 เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองที่สวยที่สุด สามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้แบบพาโนราม่า มองเห็นสะพานโซ่และอาคารรัฐสภาฮังการี่ริมแม่น้ำดานูบที่งดงามตรึงตาประทับใจกับการที่ได้มาเยือน “บูดาเปสต์” นครหลวงอันงดงามแห่งสาธารณรัฐฮังการี บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ โบสถ์แมทเทียส เป็นโบสถ์ใหญ่เก่าแก่อายุ 700 ปี ที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โบถส์แห่งนี้ตั้งชื่อตามพระนามของกษัตริย์แมทเทียส กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งฮังการี เมื่ออดีตโบสถ์แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีเถลิงราชสมบัติของกษัตริย์แห่งฮังการี แต่ในช่วงที่ฮังการีถูกรุกรานจากกองทัพเติร์ก สมบัติส่วนใหญ่ถูกขนออกไปและถูกเปลี่ยนสภาพให้เป็นมัสยิดหลักของเมืองภายใต้การปกครองของตุรกีในปี ค.ศ. 1541 และในช่วงสงครามขับไล่กองทัพเติร์ก โบสถ์แมนเทียสได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก กระทั่งเมื่อสงครามสงบลงจึงมีการบูรณะโบสถ์แมทเทียสให้กลับมายิ่งใหญ่และงดงามดังเดิม มีหลังคาสลับสีอันสวยงามตามสไตล์นีโอ-โกธิก ส่วนด้านในโบสถ์ประดับประดาไปด้วยภาพเขียนสีและกระจกสีที่บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาที่แสนงดงาม และยังมี อนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 ปฐมกษัตริย์ของชาวแมกย่าร์ตั้งเด่นเป็นสง่าให้ได้ชมกันเป็นอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้าผลงานประติมากรรมที่งดงามของศตวรรษที่11 เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือเพื่อลงเรือล่องแม่น้ำดานูบ แม่น้ำสายโรแมนติก มนต์เสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติตลอดจนอาคารบ้านเรือนและความเป็นอยู่ของผู้คนสองฟากฝั่งแม่น้ำดานูบ ณ กรุงบูดาเปสต์ โดยเฉพาะ อาคารรัฐสภาฮังการี ถือว่าสัญลักษณ์ของฮังการี อาคารรัฐสภาตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำดานูบบนฝั่งเปสต์ เป็นอาคารรัฐสภาที่ชาวฮังกาเรี่ยนภูมิใจว่าเป็นอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก เพราะตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-โกธิกที่ดูคลาสสิคด้วยหลังคาสีแดง อาคารรัฐสภาแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1885 และใช้เวลากว่า 20 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ โดยรูปแบบอาคารได้รับอิทธิพลมาจาก อาคารรัฐสภาแห่งลอนดอนสหราชอาณาจักร
จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสวีรบุรุษ สถานที่แห่งนี้เป็นลานโล่งกว้างขนาดใหญ่ที่มีอนุสาวรีย์แห่งสหัสวรรษตั้งตระหง่านอยู่กลางลานฮีโร่แควร์ อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้งอาณาจักรฮังการีครบรอบ 1,000 ปี เสาสูงตระหง่านของอนุสาวรีย์เป็นที่ตั้งของรูปหล่อเทวทูตกาเบรียล อันเป็นสัญลักษณ์ของคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่เป็นดั่งหลักของอาณาจักรฮังการี รอบเสาสูงเป็นที่ตั้งของรูปหล่อผู้นำของชนเผ่าทั้ง 7 ที่ร่วมกันก่อตั้งอาณาจักรฮังการี่ขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 9
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 16)
บ่าย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรียและในอดีตเป็นศูนย์กลางอำนาจของอาณาจักรออสโตร-ฮังกาเรียน เมืองแห่งดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวอีกมากมายที่ต่างพากันมาเยือน ดินแดนอันแสนโรแมนติคเป็นศูนย์กลางทั้งเศรษฐกิจและการปกครอง มีประชากรประมาณ 1.6 ล้านคน มีแม่น้ำดานูบไหลผ่าน เวียนนายังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานในสหประชาชาติหลายแห่ง เช่น United Nations Industrial Development Organization (UNIDO) และองค์กรระดับนานาชาติหลายแห่ง เช่น โอเปก (OPEC) นำท่านเดินช้อปปิ้งย่านใจกลางเมืองย่าน ถนนคนเดินคาร์ทเนอร์สตราเซ่ ที่มีร้านค้านานาชนิด ของแบรนด์เนมชื่อดังหลากหลายยี่ห้อ และยังเป็นที่ตั้งของ วิหารเซนต์ สตีฟาน ซึ่งเป็นวิหารศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเวียนนา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 17) พิเศษกับเมนู ซี่โครงหมูย่างเวียนนา
พักค้างคืน ณ Hotel Mercure Wien Westbahnhof หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 6)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 18)
นำท่านเข้าชมภายใน พระราชวังเชรินน์บรุนน์ พระราชวังฤดูร้อนแห่งราชวงศ์ฮับสเบิร์กที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่ไม่แพ้พระราชวังใดในยุโรปที่มีการตกแต่งห้องด้วยศิลปะในหลายรูปแบบทั้ง บารอค, รอคโคโค หรือศิลปะประยุกต์จากทางเอเซีย จากนั้นนำท่านผ่านชมเมืองเวียนนา เมืองแห่งดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวอีกมากมายที่ต่างพากันมาเยือนดินแดนอันแสนโรแมนติค โดยที่จะผ่านชมความงามของอาคารสำคัญๆ อาทิ อาคารรัฐสภา โรงละครโอเปร่า ศาลาว่าการกรุงเวียนนา นำท่านแวะถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์ของสมเด็จพระนางมารียเทรเรซ่า จักรพรรดินีผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักร ออสโตรฮังการี และนำท่านไปถ่ายรูปด้านหน้าพระราชวังฮอปส์บูร์ก ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูหนาว และในปี 1938 อดอฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีเยอรมนีได้เดินทางมายังพระราชวังแห่งนี้เพื่อประกาศรวมออสเตรียให้เป็นหนึ่งเดียวกับประเทศเยอรมนี จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินกรุงเวียนนา เพื่อเตรียมเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
16.25 น. คณะออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน กาตาร์ แอร์เวยส์ เที่ยวบินที่ QR 184/ QR 836 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา
13.10 น. คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ด้วยความสวัสดี
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
20 พ.ย. 67 - 28 ต.ค. 67 | 100,999 บาท | 26,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
30 พ.ย. 67 - 08 ธ.ค. 67 | 97,999 บาท | 24,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
04 ธ.ค. 67 - 12 ธ.ค. 67 | 97,999 บาท | 24,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
25 ธ.ค. 67 - 02 ม.ค. 68 | 106,555 บาท | 28,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
26 ธ.ค. 67 - 03 ม.ค. 68 | 106,555 บาท | 28,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
28 ธ.ค. 67 - 05 ม.ค. 68 | 106,555 บาท | 28,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
1) ค่าตั๋วเครื่องบิน (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไป-กลับพร้อมคณะ ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน จำนวนคนและมีค่าใช้จ่ายที่ทางสายการบินกำหนด (น้ำหนักกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ 25 กิโลกรัม/กระเป๋าถือขึ้นเครื่องท่านละ 7 กิโลกรัม)
2) ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3) ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง (กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ชั่วโมง/วัน)
4) ค่า Coach Tax และค่าภาษีผ่านเข้าเมืองต่างๆ
5) ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการพร้อมอาหารเช้าหรือเทียบเท่า (โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น, ราคาโรงแรมอาจมีการปรับขึ้นหลายเท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับช่วงงานเทศกาล งานแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลทำให้ต้องมีการเปลี่ยนย้ายเมือง โดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงความเหมาะสมและผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ)
6) ค่าอาหารเลิศรสทุกมื้อที่ระบุตามรายการ
7) ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
8) ค่าวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปแบบยื่นปกติ (ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมยื่นวีซ่าให้ ไม่ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่)
9) ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์
10) ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลในวงเงิน 200,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
11) ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (เฉพาะค่าบริการ)
1) ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
2) ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษในร้านอาหาร นอกเหนือจากที่บริษัทฯจัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ
3) ค่าน้ำหนักส่วนที่เกิน 25 กิโลกรัม และมีจำนวนมากกว่า 1 ชิ้น (ระเบียบของสายการบิน)
4) ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 900 บาท ต่อท่าน
5) ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป 25 ยูโร ต่อท่าน
หมายเหตุ
1. กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจากการล่าช้า (ดีเลย์) ของทางสายการบิน การนัดหยุดงานหรือการก่อจราจล ภัยธรรมชาติ รถติด ทำให้ไม่สามารถกิน-เที่ยวและพักโรงแรมได้ครบถ้วนตามโปรแกรมทัวร์ที่ระบุ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่คืนค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นโดยตรงจากทางสายการบิน และทางบริษัทฯ ไม่ได้รับค่าชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้นจากทางสายการบิน แต่ทางบริษัทฯ จะคงไว้ซึ่งผลประโยชน์สูงสุดที่ลูกค้าพึงจะได้รับอย่างเต็มความสามารถ
2.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง หรือยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า และสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยวในกรณีที่มีเหตุจำเป็นสุดวิสัย โดยจะพยายามให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับท่าน
3.ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการบางอย่างตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสายการบิน สภาพทางการเมือง ภัยธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีคิวยาวจนทำให้โปรแกรมต่อไปเสียหาย แต่ยังคงจะรักษา มาตราฐานการบริการ และประโยชน์ของลูกค้าทุกท่านไว้เหมือนเดิม
4.ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ว่าบางส่วนหรือ ทั้งหมด อาทิเช่น พาสปอร์ต, ของมีค่า, กระเป๋าเงิน, กระเป๋าเดินทาง เป็นต้น
299/10 ซอย ลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) แขวง พลับพลา เขต วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310