21.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติ ดอนเมือง อาคาร 1 ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
01.00 น. เหินฟ้าสู่ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ612
สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ราคาโปรโมชั่นไม่มีอาหารบนเครื่อง)
08.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ
เดินทางสู่ เมืองเกียวโต (Kyoto) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง) เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของวัฒนธรรมที่ประณีต ศิลปะแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มีมนต์เสน่ห์แบบชนบทญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นนิยมของคนทั่วโลก
อาราชิยาม่า (Arashiyama) อยู่ทางตะวักตกของเกียวโต ตัวเมืองอาราชิยาม่านั้นจะคึกคักมากในช่วงวันหยุด มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และบริเวณโดยรอบก็สามารถเดินเที่ยวได้เรื่อยๆ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
นำท่านชม สวนป่าไผ่ (Bamboo Groves) เป็นเส้นทางเดินเล็กๆที่ตัดผ่านในกลางสวนป่าไผ่ สามารถเดินเล่นหรือขี่จักรยายผ่านก็ได้ ให้บรรยากาศที่แปลกและหาได้ยาก อิสระให้ท่านเดินชมความงามยามที่มีแสงอาทิตย์รอดผ่านตัวป่าไผ่ลงมายังพื้นด้านล่าง ประกอบกับมีลมพัดมาพร้อมกันก็จะเป็นเสียงกิ่งก้านของต้นไผ่กระทบกันไปมา ดูสวยงามและให้บรรยากาศโรแมนติกยิ่งนัก บริเวณใกล้ๆ จะเป็นร้านขายของพื้นเมืองที่ทำมาจากต้นไม้ เช่น ตะกร้าไม้ไผ่, ถ้วย, กล่องใส่ของ หรือเสื้อสานจากไผ่ อิสระให้ท่านซื้อสินค้า หรือเลือกถ่ายภาพเก็บความประทับใจตามอัธยาศัย
และชม สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) ที่มีความยาว 250 เมตร ข้ามแม่น้ำโออิงาว่าตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอาราชิยาม่าและยังคงลักษณะเหมือนในคริสต์ศตวรรษที่ 17 แม้จะบูรณะใหม่ด้วยเหล็กแล้วก็ตาม ในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสี ยังเป็นอีกสถานที่มีชื่อเสียง
นำท่านสู่ วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) หรือ วัดทอง หรือ วัดอิคคิวซัง ที่คนไทยนิยมเรียก เดิมสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นบ้านพักของท่านโชกุนอาชิกากะ โยชิมิสุและท่านมีความตั้งใจยกบ้านพักแห่งนี้ให้เป็นวัดนิกายเซนภายหลังจากที่ท่านเสียชีวิต คนไทยนิยมเรียกกันว่า วัดทอง เนื่องจากที่วัดนี้จะมีอาคารหลักเป็นสีทองเกือบทั้งหลังตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ ทำให้เกิดเป็นเงาสะท้อนกับพื้นน้ำเบื้องหน้า จนเกิดเป็นภาพที่สวยงามเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองเกียวโต
นำท่านสู่ เมืองนาโกย่า (Nagoya) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นตัวเมืองของจังหวัดไอจิ มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 2 ล้านคน เป็นเมืองศูนย์รวมการค้าและการคมนาคมที่สําคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
ให้ท่าน ช้อปปิ้งย่านซาคาเอะ (Sakae) เป็นย่านธุรกิจการค้า โดยเฉพาะ แหล่งราตรี เช่น คลับและบาร์ มีห้างสรรพสินค้ามัตสึซาคายะ หรือ เมืองใต้ดิน (Central Park) แหล่งรวมแฟชั่นและร้านค้าสุดเก๋มากมาย เช่น ร้านเสื้อผ้า, ร้านของใช้กระจุกกระจิก, ร้านซาลอนความงาม เป็นต้น แฟนๆไอดอลญี่ปุ่น ห้ามพลาด ต้องมาเยือนห้างสรรพสินค้าซันไชน์ ซาคาเอะ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางแหล่งรวมความบันเทิงมากมาย ที่มี Grand Canyon ฮอลล์จัดคอนเสิร์ตศิลปินไอดอลและยังเป็นคาเฟ่ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของ “ชิงช้าสวรรค์ Sky Boat” แลนด์มาร์คของย่านนี้อีกด้วย
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก THE B NAGOYA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)
นำท่านสู่ เมืองกุโจฮาจิมัง (Gujohachiman) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง)เสน่ห์ของที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น มีทั้งเมืองเก่าที่เรียงรายกัน และมีรางน้ำจำนวนมากจนถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำ เมื่อเดินเล่นไปในเมืองนี้จะสังเกตเห็นได้ว่ามีรางน้ำไหลผ่านทั่วทั้งเมือง อิสระให้ท่านชม เมืองกุโจ ตามอัธยาศัย ให้ท่านเพลิดเพลินกับการชม พิพิธภัณฑ์เล็กๆ แกลเลอรี่ วัด ศาลเจ้า อีกทั้งยังมีเทศกาลเต้นรำฤดูร้อนอันโด่งดัง นอกจากนี้เมืองกุโจขึ้นชื่อเรื่องเมืองแห่งอาหารจำลอง ปริมาณการผลิตอาหารจำลองนั้นเป็นที่หนึ่งในญี่ปุ่น โมเดลอาหารที่เห็นตามร้านกินดื่มในญี่ปุ่นนั้นถูกผลิตจากที่นี่กว่าครึ่งเลยทีเดียว ถือได้ว่าแหล่งท่องเที่ยวนี่มีครบทั้งสายชิล สายธรรมชาติและสายวัฒนธรรม (สถานที่ท่องเที่ยงบางแห่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ราคาไม่รวมกับค่าทัวร์) นำท่านเดินทางสู่ร้านอาหาร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชั่วโมง)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (3)
จากนั้นนำท่านสู่ หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองที่เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น เป็นหมู่บ้านชาวนาที่มีรูปร่างแปลกตาติดอันดับ The most beautiful village in Japan และเป็นเมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ไฮไลท์!! หมู่บ้านแบบกัชโชสึคุริ เป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี คำว่า กัชโช มีความหมายว่า พนมมือ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะ รูปแบบของบ้านที่มีหลังคามุงด้วยฟางข้าวที่ทำมุมชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือที่ประนมเข้าหากัน ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร กว้าง 10 เมตร ทั้งหลังถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู ต่อมา ในปีค.ศ. 1995 องค์กรยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้ชิราคาวาโกะเป็นมรดกโลก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจังหวัดนากาโนะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
นำท่านสู่ อิออน มอลล์ มัตสึโมโตะ (Aeon Matsumoto Mall) ห้างสรรพสินค้าที่นิยมในหมู่ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ ภายในตกแต่งในรูปแบบที่ทันสมัยสไตล์ญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น อาหารสดใหม่ และอุปกรณ์ภายในบ้าน นอกจากนี้ยังมีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นมากมาย เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade และซุปเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
พักที่ ALPICO PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)
จากนั้นนำท่านสู่ ฮาคุบะ (HAKUBA) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) อยู่ในแถบภาคเหนือของเทือกเขาแอลป์ ในจังหวัดนากาโนะแม้เมืองจะไม่ได้ใหญ่ แต่ก็มีสกี รีสอร์ทให้บริการสำหรับ นักท่องเที่ยว และนักสกีไว้บริการในช่วงฤดูหนาว และในช่วงฤดูร้อนก็จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวไม่ว่าจะตั้งแคมป์ เดินป่า ซึ่งจุดชมวิวที่โด่งดังจนต้องมาเก็บภาพเพื่อความประทับใจที่
นำท่านสู่ สถานีอิวาทาเกะ กอนโดล่า ลิฟท์ (IWATAKE GONDOLA LIFT) เพื่อขึ้นสู่ HAKUBA IWATAKE MOUNTAIN RESORT จุดชมวิวบนภูเขาอิวาทาเกะ (Mt. Iwatake) ที่ท่านจะได้ชมวิวแบบ 360 องศา ไฮไลท์ “ระเบียง HAKUBA SANZAN” ที่สามารถเห็นเทือกเขาแอลป์ สามารถยืนถ่ายรูปและดื่มด่ำกับบรรยากาศได้อย่างเต็มอิ่ม ในบริเวณเดียวกันยังมีร้านเบเกอรี่ โดยทางเข้ามีที่นั่งบนระเบียง สามารถเพลิดเพลินกับการจิบเครื่องดื่มและชมวิวไปด้วยได้ และยังมีกิจกรรมอื่นๆมากมายไม่ว่าจะเป็น ปั่นจักรยาน หรือ นั่งชิงช้าขนาดใหญ่ (Yoo-Hoo! SWING) ที่สามารถชิมวิวสวยๆพร้อมกับแกว่งชิงช้าแบบได้ชมวิวธรรมชาติวิวเทือกเขาอีกด้วย (ชิงช้าเปิดบริการช่วงเดือนสิงหาคม - พฤศจิกายน) (ค่าทัวร์รวมค่าขึ้น Gondora lift ไม่รวมค่ากิจกรรมต่างๆ ในบริเวณ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ไร่วาซาบิไดโอะ (Daio Wasabi Farm) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ไร่วาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สัมผัสขั้นตอนการผลิต ที่ทางไร่พิถีพิถันมากๆ กว่าจะได้เจ้าวาซาบิส่งตรงมาถึงผู้บริโภคได้ ไร่แห่งนี้นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสายไร่ที่ใครได้ลองมาต้องติดอกติดใจ ด้วยทำเลที่ตั้งการที่ทางไร่ใช้น้ำบริสุทธิ์จากลำธารที่ไหลมาจากเทือกเขาทางทิศเหนือ ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกคือเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ภายในนอกจากไร่วาซาบิแล้ว ยังมีร้านขายของ และร้านอาหารเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากวาซาบิอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นวาซาบิสด วาซาบิดอง โซบะวาซาบิ แกงกะหรี่วาซาบิ ไส้กรอกวาซาบิ น้ำสลัดรสวาซาบิ เบียร์ที่ทำจากวาซาบิ น้ำวาซาบิ ไอศกรีมรสวาซาบิ ช็อกโกแลตรสวาซาบิ และอื่นๆอีกมากมาย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (5)
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่จังหวัดยามานาชิ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
นำท่านชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี ณ อุโมงค์ใบเมเปิ้ล (Momiji Corridor or Momiji Kairo) เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยม ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบคาวากูจิโกะ บริเวณดังกล่าวจะถูกจัดเป็นงานเทศกาลชมใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสี Fuji Kawaguchiko Autumn Leaves Festival ที่ตลอดสองฝั่งข้างทางจะเรียงรายไปด้วยต้นเมเปิ้ลมากกว่า 60 ต้น ที่มีใบสีแดง สีเหลืองและสีส้มสลับไปมาทอดยาวกว่า 2 กิโลเมตร สำหรับใบที่แห้งแล้วก็จะร่วงหล่นลงที่พื้นหรือที่คลอง ทำให้ทั้งด้านบนและด้านล่างเต็มไปด้วยใบเมเปิ้ลหลากสีสัน ราวกับพุ่มอุโมงค์ใบเมเปิ้ล ในยามค่ำคืนตั้งแต่เวลา 16.30 -22.00 น. จะมีการประดับไฟ illumination เปิดประดับยาวตามทางเดินไปตลอดแนวทาง ทำให้อุโมงค์ใบเมเปิ้ลแห่งนี้ไม่ว่าจะยามกลางวันหรือกลางคืนก็งดงามไม่แพ้กัน (**หมายเหตุ เทศกาล Fuji Kawaguchiko Autumn Leaves Festival จะจัดขึ้นในช่วงราวๆ ปลายเดือนตุลาคม ถึง กลางเดือน พฤศจิกายน ของทุกปี และสำหรับปี 2024 ยังไม่ประกาศออกมาอย่างแน่ชัด)
แหล่งอ้างอิง https://fujisan.ne.jp/en/pages/433/
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค (Oshino Hakkai) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ให้ท่านเจาะลึกตามหาแหล่งนํ้าบริสุทธิ์จากภูเขาไฟฟูจิ ที่เป็นแหล่งนํ้าตามธรรมชาติตั้งอยู่ในหมู่บ้านโอชิโนะ จ.ยามานชิ หรือพูดในทางกลับกันคือกลุ่มนํ้าผุดโอชิโนะฮัคไค เพียงก้าวแรกที่ย่างเท้าเข้าไปในหมู่บ้านก็สัมผัสได้ถึงอากาศบริสุทธิ์ และไอเย็นจากแหล่งนํ้าธรรมชาติที่มีให้เห็นอยู่ทุกมุม โดยในบ่อนํ้าใสแจ๋วมีปลาหลากหลายพันธุ์แหวกว่ายอย่างสบายอารมณ์ แต่ขอบอกเลยว่านํ้าแต่ละบ่อนั้นเย็นจับใจจนแอบสังสัยว่าน้องปลาไม่หนาวสะท้านกันบ้างหรือ เพราะอุณหภูมิในนํ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12 องศาเซลเซียสนอกจากชมแล้วก็ยังมีนํ้าผุดจากธรรมชาติให้ตักดื่มตามอัธยาศัย และที่สำคัญ หมู่บ้านโอชิโนะยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าโอทอปชั้นเยี่ยมอีกด้วย
พักที่ YUKARI NO MORI, YAMANAKAKO หรือระดับเดียวกัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม (6) พิเศษ!! อิ่มอร่อยกับ บุฟเฟ่ต์ขาปู
หลังอาหารให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (7)
นำท่านสัมผัสวัฒนธรรมดั้มเดิมของญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Sado) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอน นั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีส่วนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย และจากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของที่ละลึกตามอัธยาศัย
เดินทางสู่ โตเกียว (Tokyo) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต (Kanto) บนเกาะฮอนชู (Honshu) ในอดีตคือเมืองเอโดะ (Edo) มีรถไฟสายยามาโนเตะ (Yamanote) วนเป็นวงกลมอยู่ใจกลางเมือง มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (8)
นำท่านช้อปปิ้ง ย่านชินจุกุ (Shinjuku) ให้ท่านอิสระและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมายทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่นเกมส์ หรือสินค้าที่จะเอาใจคุณผู้หญิงด้วย กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า แบรนด์เนม เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่น เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE, KANEBO, SK II, SHISEDO และอื่นๆ อีกมากมาย ห้ามพลาด!!! จุดเช็คอินแห่งใหม่ของชาวโซเชี่ยล นั่นก็คือ แมวยักษ์ 3 มิติ ที่โผล่บนจอแอลอีดีมีขนาดมหึมา จอมีความโค้งขนาด 154 ตารางเมตร (1,664 ตารางฟุต) เสียงที่ออกจากลำโพงคุณภาพเกรดดี ความละเอียดภาพระดับ 4K ถือเป็นเทคโนโลยีระดับสูง ที่ให้ภาพเสมือนจริงปรากฎเป็นภาพแมวเหมียวเดินเล่นไปมาอยู่เหนือกรุงโตเกียว นอกจากแมวยักษ์แล้ว ท่านยังสามารถรับชมโฆษณาต่างๆ ที่ถูกครีเอทให้เป็นภาพ 3 มิติผ่านจอแอลอีดีนี้ ไม่ว่าจะเป็น แพนด้า, รองเท้าไนกี้, น้องหมา Pompompurin, จานบิน UFO แม้แต่ หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่น ท่านสามารถรับชมและเก็บภาพได้ตามอัธยาศัย
เดินทางสู่ ย่านโอไดบะ (Odaiba) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) คือเกาะที่สร้างขึ้นไว้เป็นแหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งบันเทิงต่างๆ ในอ่าวโตเกียว ได้รับการปรับปรุงให้มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในช่วงหลังของปี 1990 นอกจากมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามตั้งอยู่มากมายแล้ว แต่ก็ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่สีเขียว ไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า (Diver City Tokyo Plaza) เป็นห้างดังอีกห้างหนึ่ง ที่อยู่บนเกาะ โอไดบะ จุดเด่นของห้างนี้ก็คือ หุ่นยนต์กันดั้ม ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
พักที่ MARROAD INTERNATIONAL HOTEL NARITA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (9)
นำท่านออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (โดยรถบัสโรงแรม)
09.15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ601
14.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ราคาโปรโมชั่นไม่มีอาหารบนเครื่อง)
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | ว่าง | |
---|---|---|---|---|---|
11 พ.ย. 67 - 16 พ.ย. 67 | 35,888 บาท | 10,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 7 | จอง |
299/10 ซอย ลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) แขวง พลับพลา เขต วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310