18.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ บริเวณประตูทางเข้าหมายเลข 8 เคาน์เตอร์สายการบิน Emirates (EK) ROW T เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก *วันเดินทาง 14-24 พ.ย./28 พ.ย.-8 ธ.ค.67 เวลานัดหมายปรับเป็น 17.30 น.*
21.25 น. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK373 *วันเดินทาง 14-24 พ.ย./28 พ.ย.-8 ธ.ค.67 เวลาออกเดินทางปรับเป็น 20.35 น.*
00.50 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้นให้ท่านรอเปลี่ยนเครื่อง
04.05 น. ออกเดินทางจากสนามบินดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK071 *วันเดินทาง 14-24 พ.ย./28 พ.ย.-8 ธ.ค.67 เวลาออกเดินทางปรับเป็น 20.35 น.*
09.25 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกลด์ ประเทศฝรั่งเศส นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั๋วโมง) นำท่านเดินทางเข้าสู่มหานครปารีส Paris เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์เหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแลวัฒนธรรมที่ล้าสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทาให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สาคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นาเที่ยวชมความงดงามของมหานครปารีส ผ่านชมความสวยงามของแม่น้าแซนน์ที่ตัดผ่านใจกลางกรุงปารีส ข้ามสะพานสู่ เกาะเดอ ลา ซิเต้ กลางแม่น้าแซน ผ่านลานประวัติศาสตร์จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส แล้วผ่านเข้าสู่ถนนสายโรแมนติก ชองป์เอลิเซ่ (Champs Elysees) ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน นำชมและถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน Arc de Triomphe สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 แล้วจากนั้นนาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหอไอเฟล Tour Eiffel สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร่
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านถ่ายรูปคู่กับพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ Louvre Museum พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงและยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในอดีตที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์กาเปเซียง ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นที่จัดแสดงผลงานกว่า 35,000 ชิ้น ในพื้นที่กว่า 60,600 ตารางเมตร และมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากถึง 9.7 ล้านคนต่อปี และที่นี่ยังเป็นที่จัดแสดงของภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ภาพโมนาลิซา Monalisa ของเลโอนาร์โด ดาวินชี ศิลปินผู้มีชื่อเสียงชาวอิตาลี อีกด้วย และพานท่านตามรอยซีรี่ย์ดังEmily in Paris ที่ Palais Royal อีกหนึ่งแลนด์มาร์กจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปแท่งสีดำสลับขาวที่ไล่ระดับความสูงโดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปนั่งหรือยืนถ่ายรูปได้ และให้ท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมได้ที่ร้านค้าปลอดภาษี Paris Look
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกอย่าง ลา ซามาริแตง La Samaritaine ที่ก่อตั้งในปี 1870 โดย Ernest Cognacq และ Marie-Louise Jaÿ โดยสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Frantz Jourdain โดยเป็นอาคารเก่าแก่คลาสสิกที่ถูกขึ้นทะเบียน Monument Historique ให้เป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1990 พบกับความหรูหร่าโดดเด่นทั้งภายนอก และ ภายในอาคารของห้างด้วยศิลปะหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ภาพวาดฝาผนัง, แผงประดับอาคารที่แสนวิจิตร มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีการผสมผสานระหว่างศิลปะอาร์ตนูโวกับอาร์ตเดโคได้อย่างลงตัว และภายในอาคารยังมีโครงสร้างเหล็กอันมีเอกลักษณ์ที่ถอดแบบลักษณะมาจากหอไอเฟล ซึ่งห้างได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2021 ที่ผ่านมา และกลายเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของปารีส มีร้านค้าระดับพรีเมียม อาหาร และงานศิลปะ รวมแล้วกว่า 600 แบรนด์ มีนิทรรศการที่จะสลับหมุนเวียนให้ได้ชมตลอด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง ด้วยเมนูยอดนิยมหอยเอสคาโก้
ที่พักนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hampton by Hilton Paris Clichy หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ย่านมงมาร์ต Montmartre เป็นย่านศิลปินมากว่า 200 ปีแล้ว สัมผัสกับมนต์เสน่ห์และกลิ่นอายของวันวานที่ศิลปะในฝรั่งเศสรุ่งเรืองถึงขีดสุด ชมวิวสวยของนครปารีสจากด้านหน้าบันไดของวิหารสเกรเกอร์ Basilica of Sacre Coeur วิหารสีขาวที่เป็นสัญญลักษณ์อันโดดเด่นของปารีส แล้วเชิญสำรวจร้านกาแฟหรือชมเหล่าศิลปินที่วาดรูปอยู่ใกล้ๆ
จากนั้นพาท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักชอปปิ้งจากทั่วทุกมุมโลกในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุง ปารีสที่แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ Galleries Lafayette หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดอยู่ใจกลางกรุงปารีส โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
กลางวัน นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือเพื่อนำท่านล่องเรือบนแม่น้ำแซน พร้อมรับประทานอาหารกลางวันบนเรือ และล่องเรือไปบนแม่น้ำแซนที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่างๆ ตลอดสองฝั่งแม่น้ำนับว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจโดยเรือจะล่องผ่านมหาวิหารนอเตรอดามแห่งปารีส (Notre-dame de Paris) อายุกว่า 800 ปี เป็นมหาวิหารสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่งามเลิศ โดดเด่นด้วยหอคอยคู่หน้าทรงเหลี่ยมและยอดปลายแหลมบนหลังคาวิหารสูงจากระดับพื้นดินถึง 96 เมตร เป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารี อังตัวแนตต์ และยังเป็นจุดกิโลเมตรที่ศูนย์ของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองแวร์ซายส์ เพื่อเข้าชมความงดงามของพระราชวังแวร์ซายส์ Versailles Palace อันยิ่งใหญ่ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยายในพระราชวัง) ที่สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการ ทั้งจิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้น รูปแกะสลักและเครื่องเรือน ซึ่งเป็นการใช้เงิน อย่างมหาศาล พาท่านชมห้องต่างๆของพระราชวัง เช่น โบสถ์หลวงประจำพระราชวัง,ท้องพระโรงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง, ห้องอพอลโล, ห้องเมอคิวรี่, ห้องกระจก Hall of Mirror ที่มี ความยาวถึง 73 เมตร ซึ่งเป็นห้องที่พระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูตไทยสมัยพระนารายณ์มหาราชเคยเข้าถวายสาส์นต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดงานเลี้ยงและ เต้นรำของพระนางมารี อังตัวแนตต์ มเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16, ชมห้องบรรทมพระราชินีที่ตกแต่งอย่างงดงาม, ภาพเขียนปราบดาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียนที่ยิ่งใหญ่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พักนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hampton by Hilton Paris Clichy หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ La Vallee Village Outlet เอ๊าท์เล็ตขนาดใหญ่ทีมีสินค้าแบรนด์เนมให้เลือกมากมายอาทิ เช่น Coach, Calvin Klein, Amani, Burberry, Fred Perry, Versace, Diesel, Givenchy, Jimmy Choo, Longchamp, Michael Kors, Roberto Cavalli, Samsonite, Polo Ralph Lauren, Ted Baker, Superdry, Valentino, Salvatore Ferragamo, Hugo Boss และอื่นๆ อีกมากมาย
กลางวัน อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัยภายในเอ๊าท์เล็ต
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองดิจอง Dijon ประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดี ผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่แหล่งผลิตมัสตาร์ดชื่อดัง อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ชั้นเลิศอีกด้วย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ผ่านชมอาคารบ้านเรือนสมัยเรเนสซองส์ โบสถ์และวิหารเก่าแก่ในสมัยยุคกลาง ซึ่งมีจุดเด่นคือ การมุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีแดงสดจัดเรียงเป็นลวดลายงดงาม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พักนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Holiday Inn Dijon Sud - Longvic หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเดินทางเข้าสู่กรุงเบิร์น Bern ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล Bear Park สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์นจากนั้นชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ Zytglogge อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านเดินชมมาร์กาสเซ Marktgasse ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น Lucerne เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 1 ของสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) พาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล Chapel Bridge ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ Reuss River อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโก แลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พักนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Harry’s Home Zurich-Wallisellen หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองซุก Zug เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก Clock Tower แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองแองเกิลเบิร์ก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เพื่อขึ้นกระเช้าลอยฟ้าทันสมัยระบบใหม่ล่าสุดหมุน 360 องศา รอบตัวเอง ชมทัศนียภาพอันตระการตาได้รอบทิศทางตามเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาทิตลิส Titlis เข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Grotto) ที่ไม่เคยละลาย เชิญเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นหิมะบนลานสกี สุดแสนประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ชมทิวทัศน์ของยอดเขาต่างๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลนสร้างความงดงามให้กับขุนเขาเป็นอันมาก ให้เวลาท่านเดินข้าม" The Titlis Cliff Walk " สะพานแขวนที่ตั้งอยู่สูงที่สุดของทวีปยุโรป ที่ความสูง 3,041 เมตรจากระดับน้ำทะเล สะพานมีความยาว 100 เมตร ท่านจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ อันสวยงามแบบกว้างไกลสุดสายตา (สะพานแขวนอาจจะปิด ในกรณีถ้าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา พร้อมเมนูฟองดูชีส
บ่าย นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านเบรียนซ์ ที่ตั้งของทะเลสาบเบรียนซ์ Brienz Lake วิวสวยหลักล้านของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านชมความสวยงามของ หมู่บ้านริมทะเลสาบ ตามรอยซีรี่ย์เรื่องดังของเกาหลีอย่าง Crash Landing on you
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอินเทอร์ลาเก้น Interlaken เมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบทูน Lake Thun และทะเลสาบเบรียนซ์ Lake Brienz อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ และพลาดไม่ได้กับการเลือกชมสินค้าจากร้านเคียร์ชโฮฟเฟอร์ Kirchhofer หนึ่งในสุดยอดร้านนาฬิกาและเครื่องประดับในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสาขามากมาย โดยมีสาขาใหญ่ คือ เคียร์ชโฮฟเฟอร์ คาสิโน แกลเลอรี มีนาฬิกาสวิสมากกว่า 70 แบรนด์ในที่ที่เดียว อาทิ Breguet, Cartier, Piaget, Blancpain, Chopard, IWC, Parmigiani, Franck Muller, Hublot, Tag Heuer, Hermes, Rado, Gucci, Tissot, Bvlgari, Montblanc, Omega, Chanel, Seven Friday, Mido ฯลฯ รวมทั้ง Rolex (pre owned) พร้อมเครื่องประดับสุดพิเศษหลากหลายแบบ และยังเป็นศูนย์กลางเครื่องสำอางสวิสขั้นสูง, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รวมทั้งน้ำหอมชื่อดัง อาทิ La Prairie, Cellcosmet, Volmont, Chanel, La mer, Estee Lauder, Jo Malone ฯลฯ และอีกหลายแบรนด์ดังจากทั่วโลก รวมถึงมีจำหน่ายเครื่องหนังแบรนด์ดัง มีของที่ระลึกต่างๆ จากสวิตเซอร์แลนด์ เช่น ตุ๊กตา , มีดพับ Victorinox รวมทั้งมี Cartier boutique, Breguet & Blancpain, Swiss luxury beauty ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอินเทอร์ลาเก้น
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
สมควรแก่เวลานัดหมายนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค Zurich เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
ที่พักนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Harry’s Home Zurich-Wallisellen หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองทิทิเซ่ Titisee เมืองริมทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในเขตป่าดำ Black Forest (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ให้ท่านได้อิสระชมความงามของบ้านเรือน ชมทัศนียภาพของทะเลสาบที่มีฉากหลังเป็นป่าสนอยู่บนภูเขา ที่เรียกว่า แบล็กฟอเรสต์ สถานที่อันเป็นต้นกำเนิดนาฬิกากุ๊กกู ให้ท่านได้มีโอกาสชิมเค้กแบล็กฟอเรสอันขึ้นชื่อ ณ เมืองต้นตำรับตามอัธยาศัย และเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตคารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองลินเดา Lindau เมืองพรมแดนระหว่างสามประเทศได้แก่ เยอรมัน ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นทั้งเมืองและเกาะในชื่อเดียวกันตั้งอยู่บนทะเลสาบโบเดินหรือทะเลสาบคอนแตนซ์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) ลินเดาเป็นเมืองเก่าที่เคยเป็นอาณาจักรอิสระในอดีตและได้รับการก่อตั้งอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.882 ชมทะเลสาบที่งดงามน่ารักมีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ พร้อมชมสถาปัตยกรรมโดดเด่นบริเวณท่าเรือ ได้แก่ หอคอยมางทวร์ม Mangturm มีความเก่าแก่ที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีตที่เกิดจากการค้ากับอิตาลีในปลายศตวรรษที่ 13และสิงโตสัญลักษณ์แห่งแคว้นบาวาเรีย Bavarian Lion ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1856 และได้กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองลินเดาและรัฐบาวาเรียรวมถึงประภาคาร Lindau Lighthouse เรียกได้ว่ามาจุดเดียวชมทัศนียภาพได้สามประเทศกันเลยทีเดียว ให้ท่านเดินเล่นบนเขตเมืองเก่าบนถนนแม็กซิมิเลี่ยน ถนนสายหลักของเมืองในเขตเมืองเก่าอายุกว่าพันปี เขตตัวเมืองเก่าเต็มไปด้วยบ้านเรือนแบบโบราณ ถ่ายรูปกับศาลากลาง Old Town Hall และโบสถ์ประจำเมืองทรงหัวหอมเซ้นต์สตีเฟ่น
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค Munich อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พักนำท่านเข้าสู่ที่พัก NH Munchen Ost Conference Center หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองฟุสเซ่น Fussen ประเทศเยอรมนี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) นำท่านชมเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติกที่เคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมัน และได้ใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้า และซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองพร้อมด้วยเมนูขาหมูเยอรมัน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา Hohenschwangau เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย ที่ตั้งของปราสาทเทพนิยายแสนสวย นำท่านเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ Neuschwanstein Castle นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง * หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินหน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน *
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค Munich อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
นำท่านชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ Marienplatz ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น และยังเป็นที่รวมห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ มากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พักนำท่านเข้าสู่ที่พัก NH Munchen Ost Conference Center หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ฮัลสตัท Hallstatt หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี ตั้งอยู่ริมทะเลสาบโอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ให้ท่านเดินชมเมืองที่กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง ด้วยเมนูปลาเทร้าท์ฮัลสตัท
บ่าย รถโค้ชรอรับท่านนำท่านเดินทางเข้าสู่กรุงเวียนนา Vienna เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พักนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Quality Hotel Vienna หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านนั่งรถชมถนนสายวงแหวน Ringstrasse ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์กHofburg Palace ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นนำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ St. Stephen’s Cathedral สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่พาร์นดอร์ฟ ที่ตั้งของเอ๊าท์เล็ตใหญ่ Parndorf Mc Arthur Glen Designer Outlet ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆ อีกมากมาย
สมควรแก่เวลาให้ท่านเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินเวียนนา
22.40 น. ออกเดินทางจากสนามบินเวียนนา โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK126 *วันเดินทาง 14-24 พ.ย./28 พ.ย.-8 ธ.ค.67 เวลาออกเดินทางปรับเป็น 21.55 น.*
06.15 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้ท่านรอเปลี่ยนเครี่อง *วันเดินทาง 14-24 พ.ย./28 พ.ย.-8 ธ.ค.67 เวลาถึงปรับเป็น 06.35 น.*
09.00 น. ออกเดินทางจากสนามบินดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK370 *วันเดินทาง 14-24 พ.ย./28 พ.ย.-8 ธ.ค.67 เวลาออกเดินทางจากดูไบปรับเป็น 08.55 น.*
18.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรณณภูมิโดยสวัสดิภาพ. *วันเดินทาง 14-24 พ.ย. / 28 พ.ย.-8 ธ.ค.67 เวลาเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิปรับเป็น 18.05 น.*
299/10 ซอย ลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) แขวง พลับพลา เขต วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310