23.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบิน Emirates เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
02.50 น. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK377
*กำหนดการเดินทางวันที่ 10-18 ต.ค.67, 17-25 ต.ค.67 และ 8-16 พ.ย.67 เที่ยวบินออกจากสุวรรณภูมิปรับเป็น EK371 เวลาบิน 03.30 น.*
06.00 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้นให้ท่านแวะเปลี่ยนเครื่อง
*กำหนดการเดินทางวันที่ 10-18 ต.ค.67, 17-25 ต.ค.67 เที่ยวบินถึงสนามบินดูไบ โดย EK371 เวลา 06.50 น. และ 8-16 พ.ย.67 เที่ยวบินถึงสนามบินดูไบ โดย EK371 เวลา 07.15 น. *
10.45 น. ออกเดินทางจากสนามบินดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK123
*กำหนดการเดินทางวันที่ 8-16 พ.ย.67 เที่ยวบินออกจากสนามบินดูไบ โดย EK123 เวลา 10.15 น.*
14.25 น. ถึงสนามบินเมืองอิสตันบูล ประเทศตรุเคีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล Istanbul ให้ท่านเดินทางสู่ท่าเรือเพื่อนำท่านล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ The Black Sea เข้ากับทะเลมาร์มาร่า Sea of Marmara ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความ สวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาชเช่หรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น นำท่านแวะตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต Spice Market หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันขึ้นชื่อของตุรกี อย่าง แอปริคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Ramada Encore Bayrampasa หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด Sultan Ahmed Complex มีชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดรม Hippodrome ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน เดิมเป็นลานแข่งรถม้าและศูนย์กลางเมืองในยุคไบแซนไทน์ นำท่านเข้าชมสุเหร่าสีน้ำเงิน Blue Mosque สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านใน และถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาห์เหม็ตที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี จากนั้นนำท่านถ่ายรูปภายนอกของสุเหร่าเซนต์โซเฟีย Mosque of Hagia Sophia หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย Ayasofya Museum เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา นิกายออร์โธดอกส์ ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง และ ถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง จุดเด่นอยู่ที่ยอดโดมขนาดมหึมากลางวิหารและนับเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ที่ดีที่สุด
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองชานัคคาเล Cannakkale เมืองสำคัญอันดับ 1 ของประเทศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) เดิมชื่อ คอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส Bosphorus ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีต อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป ให้เวลาท่านชมและถ่ายรูปคู่กับม้าไม้ Trojan Horse ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บริเวณริมทะเล มีความโด่งดังมากที่สุดจากมหากาพย์ภาพยนตร์เรื่องทรอย Troy เป็นหนึ่งในอาวุธยุทโธปกรณ์อันชาญฉลาดในสมัยนั้นที่ชาวกรีกใช้อุบายส่งม้าไม้ให้เมืองทรอยเพื่อเป็นของกำนัล แต่ได้แอบบรรจุคนมาในม้าไม้เพื่อเข้ามาเปิดประตูเมืองทรอย ให้ทหารเข้าเมืองจนทำให้เมืองทรอยล่มสลาย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลการศึกของนักรบโบราณ อิสระถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Iris Hotel, Canakkale หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม จากนั้นให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเพอร์กามัม Pergamon หรือเบอร์กามา Bergama ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลียห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม.ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส ผ่านชมเมืองเพอร์กามัม เป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวกเฮเลนนิสติก ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ วิหาร
อะโครโปลิส Acropolis นครบนที่สูง เป็นโครงสร้างฐานในการป้องกันเมืองของอาณาจักรกรีกและโรมัน ซึ่งผู้ตั้งถิ่นฐานในสมัยนั้นมักเลือกที่สูง ซึ่งมักจะเป็นเนินเขาที่ด้านหนึ่งเป็นผาชัน และกลาย
เป็นศูนย์กลางของมหานครใหญ่ ที่เติบโตรุ่งเรืองอยู่บนที่ราบเบื้องล่างที่รายล้อมป้อมปราการเหล่านี้ โดยเมืองด้านบน Upper town จะเป็นพื้นที่วิหารบูชาเทพเจ้า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระราชวังและพื้นที่ใช้งานต่างสำหรับกษัตริย์และชนชั้นสูงเท่านั้น ส่วนประชาชนคนธรรมดาทั่วไปจะอยู่ในส่วนของเมืองด้านล่าง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองคูซาดาสิ Kusadasi (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) นำท่านเข้าชมเมืองโบราณเอเฟซุส City of Ephesus ที่ยิ่งใหญ่และงดงามจนกระทั่งจารึกว่า “มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซีย” เมืองโบราณที่สมบูรณ์และมั่งคั่งที่สุด ถนนทุกสายปูด้วยหินอ่อน ชมห้องสมุดเซลซุส The Library of Celsus ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเทพีทั้ง 4 องค์นี้เป็นของจำลอง ส่วนของจริงนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรียและตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา แวะชมโรงละครเอเฟซุส ซึ่งจุคนได้ประมาณ 30,000 คน เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโรงละครโบราณในตุรกี มีลานแสดงตรงกลางแวดล้อมด้วยที่นั่งชมไล่ระดับขึ้นไป ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และมีการจัดการแสดงแสงสีเสียงบ้างเป็นครั้งคราว ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ Roman Bath ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองคูซาดาสิ นำท่านเดินทางสู่ โรงงานผลิตเครื่องหนัง Leather Factory ซึ่งประเทศตุรกีเป็นประเทศที่มีฐานการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงที่สุดอันดับต้นๆ ของโลก ทั้งยังผลิตเสื้อหนังให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี อาทิ Versace, Prada, Michael Kors อีกด้วย อิสระให้ท่านเลือกชมผลิตภัณฑ์จากเครื่องหนัง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Faustina Hotel, Kusadasi หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม จากนั้นให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล Pamukkale (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเข้าชมปราสาทปุยฝ้าย Cotton Castle ซึ่งเกิดจากน้ำแร่ร้อนที่มีแร่ธาตุแคลเซี่ยมคาร์บอเนต มาตกตะกอนเกิดเป็นลักษณะหน้าผา ซ้อนกันเป็นชั้นน้ำตก มีสีขาวคล้ายกับสร้างมาจากปุยฝ้าย ซึ่งน้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ย้อยเป็นรูปร่างต่างๆอย่างสวยงามและน่าอัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิตั้งแต่ประมาณ 35-100 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้ จึงได้สร้างเมืองเฮียราโพลิสล้อมรอบ ปัจจุบันเมืองปามุคคาเลและเมืองเฮียราโพลิส ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 สำคัญอื่นๆ นำท่านชมเมืองโบราณเฮียราโพลิส (Hierapolis) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโพลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในปามุคคาเล สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล โรงอาบน้ำโรมัน โบสถ์สมัยไบแซนไทน์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Tripolis Hoel, Pamukkale หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองคอนย่า (Konya) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.45 ชั่วโมง)
*สำหรับกำหนดการ 19-27 มิ.ย.67 นำคณะผ่านหมู่บ้านในเมืองอิสปาตาร์ Isparta นำท่านชมทุ่งลาเวนเดอร์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ทุ่งลาเวนเดอร์จะบานสะพรั่งในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมทิวทัศน์ที่สวยงาม*
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านแวะถ่ายรูปกับพิพิธภัณฑ์เมฟลานา Mevlana Museum เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 โดยเมฟลานา เจลาเลคดิน รูบี ซึ่งเชื่อกันว่า ชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน
นำท่านเดินทางสู่เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia ชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง แล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน และหิมะได้เป็นกัดเซาะแผ่นดิน มาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงาม แปลกตาและน่าอัศจรรย์ ดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า “ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ระหว่างผ่านชมและถ่ายรูปกับคาราวานสไร Caravanserai ที่พักกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณ ตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว ห้องน้ำ และห้องนอน
นำท่านชมนครใต้ดิน Cardak Underground City ซึ่งเป็นที่หลบซ่อนจากการรุกรานของข้าศึกพร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศและสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ ทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ว่าอากาศในนั้นถ่ายเทเย็นสบาย หน้าร้อนอากาศเย็น หน้าหนาวอากาศอบอุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ย 17-18 องศาเซลเซียส และด้วยการออกแบบที่ดี มีทางออกฉุกเฉินที่เป็นทางระบายอากาศไปในตัวทำให้อากาศถ่ายเท
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พักสไตล์ถ้ำ Alp Hotel, Cappadocia หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม
** สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเกีย จะต้องออกจากโรงแรม 05.00 น.ชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง (ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคาโดยประมาณ 280 USD ต่อท่าน) (การขึ้นบอลลูนนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่เหมาะสม โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นสำคัญ, ประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน)
หรือ JEEP SAFARI นั่งรถจี๊ป เที่ยวชมเมืองประวัติศาสตร์นับล้านปี ชมความงามของหุบเขาที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติสรรค์สร้าง (ราคาโดยประมาณ 120 USD ต่อ ท่าน)
หรือ CLASSIC CAR นั่งรถคลาสสิค เปิดประทุน สูดอากาศ เย็น สดชื่น พร้อมชมบอลลูนสีสดใส วิวเมืองคัปปาโดเกีย (ราคาโดยประมาณ 120 USD ต่อ ท่าน )
*รบกวนติดต่อสอบถามแจ้งความจำนงค์กับหัวหน้าทัวร์โดยตรง ทางบริษัทเป็นเพียงตัวกลางในการให้ข้อมูลและคำแนะนำเท่านั้น*
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชมโรงงานทอพรม Carpet Factory โรงงานเซรามิคและโรงงานเครื่องประดับ Jewellery คุณภาพดีของประเทศตุรกี ให้เวลาท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ หุบเขาเกอเรเม Goreme Valley มีเอกลักษณ์คือภูมิทัศน์อันสวยงามและน่าอัศจรรย์ ซึ่งรอบๆ บริเวณนี้เต็มไปด้วยหินรูปทรงประหลาดต่างๆ เป็นจำนวนมากที่สร้างขึ้นโดยธรรมชาติ ผู้คนนิยมมาถ่ายภาพเช็คอินและยังสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามแบบพาโนรามาได้อีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางไปถ่ายภาพที่ หุบเขานกพิราบ Pigeon Valley เป็นจุดชมวิวที่อยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรูไว้ เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย บริเวณริมผามีต้นไม้จำลองที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่โดดเด่น ด้วยเรื่องของความเชื่อกับผู้
คนนั้นเป็นของคู่กันมาเนิ่นนาน เช่นกันกับดินแดนแถบนี้ที่มีความเชื่อเรื่องนัยน์ตาปีศาจ
นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ปราสาทหินยูชิซาร์ Uchisar Castle เป็นปราสาทหินธรรมชาติตั้งแต่สมัยโรมันไบเซนไทน์ ที่ในอดีตใช้เป็นป้อมปราการสำหรับส่งสัญญาณเตือนภัย และยังให้ท่านชมทัศนียภาพที่สวยงามแบบพาโนราอีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองอังการ่า Ankara เมืองหลวงในปัจจุบันของตุรกี เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ที่ผสมผสานกันระหว่างยุโรปและตะวันออกกลางอย่างลงตัว เมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะโรมัน และมัสยิดในศิลปะไบเซนไทน์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) ระหว่างทางนำท่านชมทะเลสาบเกลือ Salt Lake ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของตุรกี และเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีเปอร์เซ็นต์ของเกลือสูงในหน้าร้อนน้ำทะเลสาบจะเหือดแห้งเหลือเพียงแต่กองเกลือที่ตกผลึกเป็นแผ่นหนาหลายสิบเซนติเมตรมองเห็นเป็นพื้นสีขาวสุดสายตาและที่ทะเลสาบเกลือแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง Star War ด้วย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก New Park Hotel, Ankara หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม จากนั้นให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล Istanbul เมื่องสำคัญอันดับ 1 ของประเทศ เดิมชื่อ คอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.45 ชั่วโมง)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชมเมืองอิสตันบูลกับสถานที่สวยๆ ให้ท่านถ่ายภาพกับพระราชวังทอปกาปี Topkapi Palace อดีตเคยเป็นที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมัน ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บ มหาสมบัติอันล้ำค่า (ปิดเข้าชมทุกวันอังคาร) และยังเป็นส่วนหนึ่งของ พื้นที่ประวัติศาสตร์ของอิสตันบูล ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ขององค์การยูเนสโก
จากนั้นนำท่านสู่ย่านบ้านหลากสีสันคัลเลอร์ฟูล Colorful House หรือ Balat Old Houses จุดเช็คอินน์ถ่ายรูปสุดฮิตแห่งใหม่ของอิสตันบูล และนำท่านถ่ายรูป Galata Tower หอคอยหินสไตล์โรมันเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองอิสตันบูล ถูกสร้างขึ้นในปีถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1348 เพื่อแทนที่หอคอยกาลาตาเก่าในยุคบาเซนไทน์บริเวณชั้นบนของหอคอยกาลาตา มีร้านอาหารและคาเฟ่ไว้คอยบริการ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของบอสฟอรัส ถนนใกล้เคียงในเขตกาลาตาคาราค็อยอันเก่าแก่ และบริเวณโดยรอบของนครอิสตันบูล และให้ท่านช้อปปิ้งเลือกซื้อขนมหวานจาก Candy Shop ตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ ตลาดในร่ม Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar หรือ แกรนด์บาซาร์ Grand Bazaar เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงตั้งราคาสินค้าเอาไว้ค่อนข้างสูง ควรต่อรองราคาให้มาก
จากนั้นนำท่านสู่ย่านทักซิม สแควร์ Taksim Square เป็นย่านคึกคักที่สุดในมหานครอิสตันบูล และเป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตั้งอยู่ในเขตยุโรปของนครอิสตันบูล คำว่า Taksim หมายถึง การแบ่งแยก หรือ การกระจราย ซึ่งมีที่มาจากในรัชสมัยของ Sultan Mahmud I สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำในยุคของออตโตมันและเป็นจุดที่สายน้ำจากทางตอนเหนือถูกรวบรวมและกระจายออกไปยังส่วนอื่น ๆ ของเมืองนอกจากนี้คำว่า Taksim ยังหมายถึงรูปแบบดนตรีพิเศษในเพลงคลาสสิคของตุรกีอีกด้วย ระหว่างที่เราเดินเพลินบางช่วงเวลาจะมีรถรางสีแดงที่วิ่งมาตามรางมีกิจกรรมพิเศษบนรถรางได้นักท่องเที่ยวได้เห็นการแสดงต่างบนรางได้ตลอดเวลานอกจากนี้ Taksim Square ยังรายล้อมไปด้วยร้านอาหารตุรกี, ร้านค้า, ผับ, คาเฟ่และร้านอาหารจานด่วนนานาชาติมากมายได้แก่ Pizza Hut, Mc Donald’s, Subway และ Burger King และสินค้าแบรนด์เนม ชื่อดัง อื่น ๆ อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินได้ตลอดเวลา
18.00 น. สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล
23.20 น. นำท่านเดินทางออกจากสนามบินอิสตันบูล โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบิน EK118
*กำหนดการวันที่ 8-16 พ.ย.67 โดย EK118 ออกจากสนามบินอิสตันบูล เวลา 23.40 น.*
04.50 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
*กำหนดการวันที่ 8-16 พ.ย.67 โดย EK118 เดินทางถึงสนามบินดูไบ เวลา 04.55 น.*
09.40 น. เดินทางออกจากสนามบินดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบิน EK372
*กำหนดการวันที่ 10-18 ต.ค.67 และ 17-25 ต.ค.67 เที่ยวบินจากดูไบปรับเป็น EK370
ออกจากสนามบินดูไบ เวลา 09.00 น.*
19.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
*กำหนดการวันที่ 10-18 ต.ค.67 และ 17-25 ต.ค.67 เที่ยวบิน EK370 ถึงสุวรรณภูมิเวลา 18.25 น.*
1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์ อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7. ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด ความคุ้มครองเป็นตามกรมธรรม์ประกันภัย)
8. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)
1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 กก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
5. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น (35 ยูเอสดอลล่าร์/ต่อท่าน)
6. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (27 ยูเอสดอลล่าร์/ต่อท่าน)
เงื่อนไขการให้บริการ
299/10 ซอย ลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) แขวง พลับพลา เขต วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310