20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบิน Turkish Airways โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
01.35 น. ออกเดินทางต่อด้วยเที่ยวบิน EK385
04.55 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบรอเปลี่ยนเครื่อง
09.05 น. ออกเดินทางต่อสู่สนามบินมาร์โคโปโล เมืองเวนิส ด้วยเที่ยวบิน EK135
13.25 น. เดินทางถึงสนามบินมาร์โคโปโล เมืองเวนิส นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) พาท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิสสู่เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก ซึ่งเป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน และมีสมญานามว่าเป็น "ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก" มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง พาท่านขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค (San Marco) ศูนย์กลางของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ ( Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่าง และโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ โดยสะพานแห่งนี้เชื่อมต่อกับวังดอดจ์ (Doge’s Palace) อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ "คาสโนว่า" นั่นเอง นำท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค (St.Mark’s Square) ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โค (St.Mark’s Bacilica) ที่มีโดมใหญ่ 5 โดมตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเที่ยวชมเกาะเวนิสอันแสนโรแมนติก เช่น เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซานมาร์โค, ช๊อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (สปาร์เก๊ตตี้หมึกดำ)
ที่พักนำท่านเข้าสู่ที่พัก VOCO VENICE MESTRE หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซีร์มิโอเน่ (Sirmione) เมืองแห่งป้อมปราการโบราณ เก่าแก่อายุนับ 2000 ปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda) นำท่านถ่ายภาพด้านหน้าปราสาทเก่าแก่ของเมือง (The Scallger of Sirmione) สร้างในปี 1277 ซึ่งเมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล SCALIGER จากนั้นเดินเล่นชมเมืองเก่าชิมไอศรีมเจลาโต้ที่มีชื่อเสียงของอิตาลี หลากหลายร้านและของที่ระลึกอื่นๆ อิสระให้ท่านชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบการ์ด้า ซี่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองแบร์กาโม (Bergamo) เมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของแคว้นลอมบาร์เดีย ตั้งอยู่ห่างจาก เมืองมิลาน ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของราวๆ 40 กิโลเมตร นำท่านเดินทางสู่ ย่านจัตุรัสเก่า เปียสซ่า เว็คเคียร์ (Piazza Vecchia) ย่านใจกลางเมืองเก่าที่แวดล้อมไปด้วยเหล่าอาคารที่แสดงออกถึงการผสมผสานระหว่างสภาปัตยกรรมของยุคกลางและเรเนสซองจากนั้นนำท่านชมมหาวิหารซานต้า มาเรีย มายอเร (Santa Maria Maggiore) มหาวิหารที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี1137 หลังจากนั้นก็มีการเพิ่มเติมหอระฆังเข้ามาอีกในปี 1436 หลังจากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ Cappella Colleoni อีกหนึ่งวิหารที่สร้างสไตล์โราเนสก์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พักนำท่านเข้าสู่ที่พัก EXECUTIVE BERGAMO หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่สถานีกระเช้าสู่ ยอดเขาดิอาโวเลซซา(Diavolezza) ยอดเขาที่ถือเป็นไข่มุกเม็ดงามแห่งที่ราบสูงแองเกอดินแคว้น Graubünden แอ่งเทือกเขาบนความสูง 2,958 เมตรที่เป็นสกีรีสอร์ท นำท่านชมวิวความสวยงามของยอดเขาแอล์ปตะวันออก ที่มียอดเขาที่สวยงามอยู่รวมกันมากมาย เช่น ยอดเขาพิซ เบอร์นิน่า (Piz Bernina Peak), โครวาทส์ซ (Corvatsch)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา (กะเพราไทยสไตล์สวิส)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองวาดุซ (Vaduz) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศและเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งชาติ เมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ที่มีประชากรราว 5,100 คน นำท่านสู่จุดชมวิวเมืองละถ่ายรูปคู่กับปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle) ปราสาทที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชันในย่านใจกลางเมือง โดยปราสาทแห่งนี้ยังเป็นที่พักของพระบรมวงศานุวงศ์แห่งลิคเทนสไตน์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตัวปราสาทนั้นสร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ก่อนที่จะมีการบูรณะและต่อเติมในปีค.ศ. 1904 และต้นศตวรรษที่ 1930 ปัจจุบันตัวปราสาทนั้นไม่เปิดให้สาธารณะทั่วไปเข้าชม จากนั้นนำท่านเข้าสู่ร้าน Huber ร้านนาฬิกาและเครื่องประดับชื่อดัง แหล่งรวมนาฬิกาชั้นนำมากมายและเรียกได้ว่ามียี่ห้อชั้นนำครบมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว อาทิ เช่น Patak Philippe, Rolex, Panerai , Omega, Brequets, IWC, Cartier, Piaget, Chopard ,Tag Heuer, Hublot, Vacheron Constantin, Audemars Piguet, Breitling, Longines, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Chanel, Hermes, Bvlgari, Rado, Tissot, Swatch ฯลฯ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองซูริค
ที่พักนำท่านเข้าสู่ที่พัก HARRY’S HOME ZURICH หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่สถานีกระเช้าสู่ ยอดเขาดิอาโวเลซซา(Diavolezza) ยอดเขาที่ถือเป็นไข่มุกเม็ดงามแห่งที่ราบสูงแองเกอดินแคว้น Graubünden แอ่งเทือกเขาบนความสูง 2,958 เมตรที่เป็นสกีรีสอร์ท นำท่านชมวิวความสวยงามของยอดเขาแอล์ปตะวันออก ที่มียอดเขาที่สวยงามอยู่รวมกันมากมาย เช่น ยอดเขาพิซ เบอร์นิน่า (Piz Bernina Peak), โครวาทส์ซ (Corvatsch)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา (กะเพราไทยสไตล์สวิส)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองวาดุซ (Vaduz) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศและเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งชาติ เมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ที่มีประชากรราว 5,100 คน นำท่านสู่จุดชมวิวเมืองละถ่ายรูปคู่กับปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle) ปราสาทที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชันในย่านใจกลางเมือง โดยปราสาทแห่งนี้ยังเป็นที่พักของพระบรมวงศานุวงศ์แห่งลิคเทนสไตน์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตัวปราสาทนั้นสร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ก่อนที่จะมีการบูรณะและต่อเติมในปีค.ศ. 1904 และต้นศตวรรษที่ 1930 ปัจจุบันตัวปราสาทนั้นไม่เปิดให้สาธารณะทั่วไปเข้าชม จากนั้นนำท่านเข้าสู่ร้าน Huber ร้านนาฬิกาและเครื่องประดับชื่อดัง แหล่งรวมนาฬิกาชั้นนำมากมายและเรียกได้ว่ามียี่ห้อชั้นนำครบมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว อาทิ เช่น Patak Philippe, Rolex, Panerai , Omega, Brequets, IWC, Cartier, Piaget, Chopard ,Tag Heuer, Hublot, Vacheron Constantin, Audemars Piguet, Breitling, Longines, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Chanel, Hermes, Bvlgari, Rado, Tissot, Swatch ฯลฯ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองซูริค
ที่พักนำท่านเข้าสู่ที่พัก HARRY’S HOME ZURICH หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านเดินลัดเลาะสู่ถนนจุงเคอร์นกาสเซ (Junkerngasse) ถนนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีในย่านเมืองเก่า มีบ้านอาคารสไตล์บาโรกตอนปลาย นำท่านแวะถ่ายรูปกับวิหารเบิร์น (Bern’s Minster) วิหารสไตล์โกธิคที่สูงที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า จากนั้นเดินสู่ถนนแครมกัซเซอ (Kramgasse) นำถ่ายรูปกับบ้านไอน์สไตน์ (Einsteinhaus) บ้านเลขที่ 49 ที่อัลเบิร์ตไอน์สไตน์เคยอาศัยอยู่ที่นี่ เมื่อครั้งมาทำงานเป็นผู้ตรวจสอบของสำนักงานสิทธิบัตรของสวิส ช่วงปี ค.ศ.1902-1905 จากนั้นชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge) อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านเดินชมมาร์กาสเซ(Marktgasse) ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย จากนั้นนาท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริคนำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านสู่จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) เป็นจัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อิสระให้ท่านได้เดินชมเมือง ถ่ายรูปและเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
เย็น อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พักนำท่านเข้าสู่ที่พัก HARRY’S HOME ZURICH หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางต่อสู่ เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald's church) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญจากนั้นเดินทางต่อสู่ เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย
นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald's church) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ชาวสวิสยังมีความเชื่ออีกว่า ถ้าใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ หรือเจ็บป่วย ถ้าได้มาขอพรกับโบสถ์แห่งนี้ จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว (กรณีถ้ามีพิธีภายในโบสถ์ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม) นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ และไม่ควรพลาดเค้กเชอร์รี่ Zug Cherry Cake (Zuger Kirschtorte) จากร้าน Speck เค้กที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีขายมากว่าร้อยปี มีบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายต่างเคยลิ้มลองเค้กจากร้านนี้ เช่น Charlie Chaplin, Winston Churchill หรือสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส โดยเมืองซุกนี้มีการทำฟาร์มผลไม้ ทั้งสตอเบอร์รี่, บูลเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่,ลูกแพร์ ฯลฯ รวมทั้ง เชอร์รี่ ที่มีปลูกมากกว่า 40,000 ต้น จากนั้นนำท่าน นั่งรถไฟไต่เขาริกิ (Rigi) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ที่เรียกได้ว่าเป็นรถไฟสายแรกของสวิตเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ และยังเป็นอันดับ 2 รองจากยอดเขาวอชิงตัน ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในสหรัฐอเมริกา มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,798 เมตร สู่ ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) มีที่มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่า "ราชินิแห่งขุนเขา" (Queen of the mountains) เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
บ่าย นำท่านลงจากเขาเที่ยวชม เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา นำท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่สนามบินเจนีวา เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
22.15 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่ EK086
06.25 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น. ออกเดินทางต่อกลับสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน EK372
19.15 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
299/10 ซอย ลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) แขวง พลับพลา เขต วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310