22.00 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประตูทางเข้าหมายเลข 10 ชั้น 4 สายการบิน Emirate (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจัดเตรียมเอกสารการเดินทางสำหรับทุกท่าน และนำท่านโหลดสัมภาระเช็คอิน (ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่อง เนื่องจากต้องเป็นไปตามระบบของสายการบิน)
01.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK385 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
04.55 น. แวะเปลี่ยนเครื่องที่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
08.25 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบิน Emirate เที่ยวบินที่ EK87 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
12.25 น. เดินทางถึง เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ เมืองเบิร์น (Bern) เป็นเมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ UNESCO ปี 1983 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
นำท่านชม และถ่ายภาพกับ บ่อหมี (Bear Pit)
สัตว์สัญลักษณ์ของเมืองเบิร์นในสมัยก่อน มีประวัติความเป็นมาสมัยผู้ครองกรุงเบิร์นในยุคก่อนเคยได้ออกล่าสัตว์ สัตว์ตัวแรกที่ล่าได้คือ หมี จึงได้มีการตั้งชื่อเมืองนี้ว่า เบิร์น Bern ในภาษาเยอรมนีแปลว่า หมี จากนั้นนำท่านชม ย่านเมืองเก่าเบิร์น (Bern Old Town) เป็นเมืองโบราณเก่าแก่กว่า 800 ปี ถ่ายภาพกับ หอนาฬิกาซึทกลอกเกอ (Zytglogge) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1218 และถือเป็น 1 ใน 3 ของนาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ในทุกชั่วโมงจะมีเสียงดนตรีพร้อมตุ๊กตาที่ออกมาเต้นระบำให้ได้ชมกัน นอกจากนี้ยังมีโบสถ์ และอาคารเก่าแก่มากมายที่เป็นส่วนสำคัญทำให้เมืองเก่าแห่งนี้ถูกยกเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้อีกด้วย อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งย่าน ถนนมาร์คกาสเซ (Marktgasse)
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Holiday Inn Bern Westside หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง เมืองเวเว่ (Vevey) เมืองตากอากาศริมฝั่งทะเลสาบเจนีวาที่สวยงามจนได้รับฉายาว่าเป็น “Pearls of the Swiss Riviera” เป็นแหล่งผลิตไวน์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นที่ตั้งของสำนักงานยักษ์ใหญ่แห่งวงการอาหารบริษัทเนสต์เล่ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที) แวะถ่ายภาพกับ รูปปั้นของดาวตลกผู้โด่งดังชาวอังกฤษ ชาร์ลี แชปลิน (Charlie Chaplin Statue) ที่มีผลงานสร้างชื่อเสียงในอเมริกา และเขาเลือกใช้เวลา 25 ปีสุดท้ายในบั้นปลายชีวิตมาอยู่ที่เวเว่ ภายหลังจากเขาเสียชีวิตจึงได้มีการสร้างรูปปั้นขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงเขา รวมไปถึงบ้านของชาร์ลี แชปลิน ในปัจจุบันก็ยังเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้คนที่สนใจชีวิตของศิลปินท่านนี้เข้ามารับชมได้อีกด้วย (ราคาทัวร์ไม่รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์) บริเวณใกล้กันมีอีกหนึ่งจุดไฮไลท์สำคัญของเมือง คือ THE FORK หรือ ส้อมยักษ์ขนาดใหญ่ทำมาจากสแตนเลส สูง 8 เมตร กว้าง 1.3 เมตร ออกแบบโดย Jean-Pierre Zaugg ชาว Neuchatel ที่ปักอยู่ตรงริมทะเลสาบเจนีวา ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกวันครบรอบ10 ปี ของ Alimentarium
เดินทางต่อไปยัง เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองพักตากอากาศเล็กๆ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือริมทะเลสาบเจนีวา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) นำท่านถ่ายภาพด้านนอก ปราสาทชิลยอง (Chillon Castle) ปราสาทโบราณที่มีความเก่าแก่มากกว่า 1,000 ปี สัญลักษณ์ของเมืองมองเทรอซ์ เคยถูกใช้เป็นที่พักร้อนของราชวงศ์ซาวอย ในอดีตปรา สาทนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดควบคุมการเดินทางของนักเดินทาง และขบวนสินค้าที่ผ่านไปมา ความสวยงามของปราสาทนี้ยังกลายเป็นต้นแบบของปราสาทในวอลต์ดิสนีย์เรื่อง เดอะลิตเติ้ล เมอร์เมด นำท่านชมและถ่ายรูปคู่กับ อนุสาวรีย์เฟรดดี เมอร์คิวรี ( Freddie Mercury Monument) นักร้องวงควีน (Queen) ที่ถือเป็นหนึ่งในตำนานเพลงร๊อคที่ยิ่งใหญ่ในยุค 70s เพลงที่เป็นที่รู้จักและคุ้นหูมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเพลง We Will Rock You หรือ We Are The Champions ที่ชอบเปิดในการแข่งขันฟุตบอล เขาเสียชีวิตที่เมืองนี้ในปี 1991 ชาวเมืองจึงสร้างอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึงเขาที่ริมทะเลสาบใจกลางเมือง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านไปยัง เมืองโลซานน์ (Lausanne) เมืองตากอากาศที่สำคัญของสวิส และได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งโอลิมปิค เพราะเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่คณะกรรมการโอลิมปิคสากล หรือ IOC และยังมีความสำคัญกับคนไทยเนื่องจากเป็นเมืองทรงโปรดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ ๙ เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ให้เวลาท่านถ่ายภาพคู่กับ ศาลาไทย ที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ และเพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญในปี ๒๕๔๙ สองวาระ คือ วโรกาสที่พระบาทสมสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ พรรษา และการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสมาพันธรัฐสวิสครบ ๗๕ ปี โดยสมเด็จพระเทพราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทรงเป็นประธานในพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๐๐๙ แวะ ถ่ายภาพด้านหน้า พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก (Olympic Museum Lausanne) เป็นที่จัดนิทรรศการ และบอกเล่าความเป็นมาของกีฬาโอลิมปิกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ย่านเมืองเก่า ชม มหาวิหารโลซานน์ (Cathedral de Lausanne) มีอีกชื่อหนึ่งว่า มหาวิหารน็อทเทรอดาม (Notre- dam) เป็นวิหารขนาดใหญ่แบบโกธิค ซึ่งถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1170-1240 โดย Pope Gregory X อิสระให้ท่านถ่ายภาพ และเข้าชมความสวยงามของกระจกสีวาดลวดลายต่างๆ มากถึง 105 บาน ที่ตกแต่งภายในโบสถ์
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเบิร์น
ที่พัก Holiday Inn Bern Westside หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองทูน (Thun) เมืองสวยริมทะเลสาบเป็นเมืองเก่าแก่ที่เราจะยังได้เห็นและสัมผัสถึงความเป็นเมืองเก่าสมัยยุคศตวรรษที่ 12 ได้ และนอกจากตัวอาคารสวยๆ แล้วทิวทัศน์ริมทะเลสาบทูน (Lake Thun) ก็สวยไม่แพ้กัน แวะถ่ายรูปที่ด้านหน้า ปราสาทโอเบอร์โฮเฟน (Castle of Oberhofen) ปราสาทสีขาวตั้งโดดเด่นริมทะเลสาบทูน ปราสาทแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งเบิร์น (Historical Museum of Bern) ด้วยความเก่าแก่และน่าสนใจทำให้ปราสาทแห่งนี้เป็นหนึ่งในมรดกชาติที่สำคัญของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำทุกท่านล่องเรือชมบรรยากาศความสวยงามระหว่างทางจากทะเลสาบจากเมืองทูนไปยัง เมืองสเปียซ (Spiez) (ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 30-40 นาที)
นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองอินเทอร์ลาเก้น (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง 2 ทะเลสาบใหญ่คือ ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และ ทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อาคารบ้านเรือนในเมืองส่วนใหญ่จะสร้างด้วยสไตล์ชาเล่ย์สวิสที่สวยงาม (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! ชีส และ ช็อกโกแลตฟองดูวร์
พาท่านชม ย่านเมืองเก่า (Old Town) จากนั้นนำท่านไปช้อปปิ้งร้านนาฬิกาที่มีชื่อเสียง ยี่ห้อดังหลากหลายแบรนด์ที่ผลิตในสวิส เช่น Patek Philippe, Cartier, Blancpain, Chanel, Bvlgari, Hermes, Piagel และแบรนด์ชั้นนำอีกมากมาย ทั้งยังมี เครื่องประดับ, เครื่องหนัง และเครื่องสำอางอีกด้วย อิสระให้ท่านได้ซื้อของฝาก และเดินเล่นถ่ายภาพในเมืองได้ตามอัธยาศัย
** อิสระอาหารมื้อเย็น เพื่อการเดินเล่น และช้อปปิ้งอย่างต่อเนื่อง **
ได้เวลาอันสมควรพาท่านออกจากเมืองอินเทอร์ลาเก้นไปยัง เมืองบีเตนเบิร์ก (Beatenberg) เป็นเมืองท่องเที่ยวเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมือง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที)
ที่พัก Park Hotel Beatenberg หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางไปยังเมืองเลาเทอร์บรุนเนิน เพื่อนั่งรถไฟไปยังสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป “Top of Europe” แวะเปลี่ยนสายรถไฟที่สถานี kleine Scheidegg ไปต่อยัง ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป ด้วยความสูงสุดถึง 3,466 เมตร ระหว่างทางขึ้นบนยอดเขาเราก็จะได้ชมธรรมชาติ ป่าไม้ ทุ่งหญ้า รวมถึงบ้านเรือนที่สร้างขึ้นมาในสไตล์ของชาวสวิตเซอร์แลนด์ (ใช้เวลาในกานั่งรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ในการเดินทาง) เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาเราจะได้พบกับวิวรอบข้างที่สวยงามเป็นอย่างมากมีหิมะปกคลุมบนยอดเขาตลอดทั้งปี นำท่านชม ธารน้ำแข็ง หรือ กลาเซียร์ (Glacier) ที่มีขนาดใหญ่ บนยอดเขาแห่งนี้ยังมี อุโมงค์น้ำแข็ง 1,000 ปี (Ice Palace) มีการตกแต่งอุโมงค์เก่าให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ด้วยการแกะสลักน้ำแข็งเป็นรูปร่างต่างๆ นำท่านขึ้น สวิสสฟิงซ์ หรืออาคารสังเกตุการณ์ ที่ความสูง 3,571 เมตร Jungfrau Panorama view ให้ท่านได้ถ่ายภาพและสัมผัสหิมะที่ ลานพลาโต (Plateau) ตามอัธยาศัย อีกจุดหนึ่งที่ไม่อยากให้ทุกท่านพลาด คือการส่งโปสการ์ดจากที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขาจุงเฟรา
นำท่านลงจากยอดเขาจุงเฟราไปยังสถานีรถไฟไอเกอร์เกลทเชอร์ เพื่อนำท่านขึ้นกระเช้า Eiger Express ลงไปยังเมืองกรินเดลวัลด์ (ตัวกระเช้าเปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ 2020 ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการเดินทาง)
นำทุกท่านขึ้นรถบัสเดินทางต่อไปยัง เมืองลูเซิร์น (Lucerne) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
พาท่านชมเมือง ลูเซิร์น (Lucerne) เมืองเล็กๆ ที่ชวนอบอุ่นอยู่ริมฝั่ง ทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne) มองเห็นแนวเทือกเขาแอลป์เรียงสลับเป็นทิวสวยงามทุกฤดูกาล นำท่านถ่ายภาพคู่กับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) สัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึก และเป็นเกียรติแก่เหล่าทหารหาญชาวสวิสซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์นมากกว่า 700 คนที่ออกรบและเสียชีวิตในฝรั่งเศสเมื่อครั้งเกิดสงครามปฏิวัติยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 อีกจุดหนึ่งที่น่าชมมากในย่านนี้ก็คือ สะพานไม้ชาเปล (Chapel bridge) สะพานที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามไปมาระหว่างสองฝั่งแม่นํ้ารอยซ์ (Reuss River)
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก โรงแรม Ibis Styles Luzern City หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อิสระให้ทุกท่านเดินเล่นชมเมืองเก่าลูเซิร์น (Old Town) และช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาแบรนด์ดังจากสวิตเซอร์แลนด์, มีด VICTORINOX หรือ จะเลือกซื้อเป็นช็อกโกแลตจาก ร้าน Laderach ช็อคโกแลตแท้ๆ ของฝากร้านดังของสวิตเซอร์แลนด์ ทำสดใหม่ทุกวัน มีสาขาทั่วไปตามเมืองใหญ่ๆ ในสวิสและตามสถานีรถไฟหลักๆ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1962 ที่เมือง Glarus ซึ่งสมัยก่อนนั้น ทำเป็นธุรกิจครอบครัว เป็นตึกแถวเล็กๆ ต่อมาด้วยชื่อเสียงของความอร่อย จึงขยับขยายมีโรงงานใหญ่โต ส่งออกไปทั่วประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันมีช็อปเปิดขายช็อคโกแลตมากกว่า 50 สาขาทั่วโลก และในสวิส 23 สาขา ส่วนที่ต่างประเทศนั้นมีที่เกาหลีใต้ เยอรมัน คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวลาซื้อสามารถสั่งโดยคิดราคาตามน้ำหนักที่ต้องการ โดยทางร้านจะหักแบ่งชั่งใส่ถุงพลาสติก และตกแต่งให้สวยงาม
** อิสระอาหารมื้อกลางวัน เพื่อการเดินเล่น และช้อปปิ้งอย่างต่อเนื่อง **
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ แต่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ และยังติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองที่สะอาดที่สุดในโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองนี้มีอดีตยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นย่านเมืองเก่าที่มีทั้งอาคาร บ้านเก่าแก่ตั้งแต่สมัยยุคกลาง จัตุรัสกลางเมือง และน้ำพุที่ตกแต่งด้วยรูปปั้นสวยๆ ตามสไตล์ยุโรปก็มีให้ชมมากมายในเมืองนี้ อิสระให้ท่านถ่ายภาพกับ หอนาฬิกาสูง 25 เมตร (Zytturm Zug) ที่สร้างในสมัยศตวรรษที่ 13 แต่ยังคงทำหน้าที่บอกทั้งเวลา วันที่ และข้างขึ้นข้างแรมได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
พาท่านเข้าชม ร้านนาฬิกา Lohri ที่มีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อมากมาย เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, lancpain, Tag Heuer เป็นต้น ในปัจจุบันร้านนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น ร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (Europe's oldest goldsmith-house)
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที)
ที่พัก โรงแรม Movenpick Hotel Zurich Airport หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ เมืองซูริค (Zurich) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีแม่น้ำลิมมัตเป็นแม่น้ำสายที่ใหญ่ที่สุด ซูริคไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ แต่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจ ธนาคาร และวัฒนธรรมของประเทศ เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกและเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในทวีปยุโรป อีกทั้งเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงมากที่สุดอันดับ 2 ในสวิตเซอร์แลนด์ รองจากเมืองเจนีวา เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่รวมถึง 1,829 ตารางกิโลเมตร ให้เวลาท่านถ่ายภาพนาฬิกาดอกไม้ และวิวเมืองแสนสวย ริมทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) เที่ยวชมเมืองซูริค ย่านดาวน์ทาวน์ (Downtown Zurich) ที่เป็นศูนย์กลางรวมทุกสิ่งทุกอย่างของเมืองเอาไว้ แต่ที่โดดเด่นคือบริเวณถนน บานโฮฟซตราเซอร์ (Bahnhofstrasse) เป็นถนนสายหลักแห่งการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า และร้านค้าหรูหราด้วยถนนสายยาวกว่า 1 กิโลเมตร
ผ่านชม ศาลาว่าการเมืองซูริค ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี และได้ถูกใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลสาธารณรัฐซูริค จนถึงปี 1798 เป็นหนึ่งในอาคารเก่าแก่ของเมือง อิสระให้ท่านเดินเล่น และช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! อาหารไทย
เดินทางสู่เมือง ชาฟฟ์เฮาเซ่น (Schaffhausen) หัวเมืองหลักทางตอนเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ ตัวเมืองชาฟฟ์เฮาเซ่นส่วนใหญ่ยังคงอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนต่างๆ ตั้งแต่สมัยยุคเรเนสซองส์เอาไว้ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
จุดหมายหลักที่เมืองนี้ของเรือ ชมน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป น้ำตกไรน์ (Rhine Falls) แม้จะสูงเพียง 23 เมตร แต่มีความกว้างมากถึง 150 เมตร ด้วยความใหญ่ของน้ำตกทำให้มีละอองน้ำฟุ้งกระจายอยู่ทั่วโดยรอบ อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพกับน้ำตกไรน์ตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ประเทศไทย และเผื่อเวลาในการทำ Tax Refund ที่สนามบิน
21.50 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK86 (บริการอาหาร และเครื่องดื่มบนเครื่อง)
07.05 น. แวะเปลี่ยนเครื่องที่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
09.30 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK372 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
18.40 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | ว่าง | |
---|---|---|---|---|---|
12 ก.พ. 68 - 19 ก.พ. 68 | 85,888 บาท | 18,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 0 | |
19 มี.ค. 68 - 26 มี.ค. 68 | 85,888 บาท | 18,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 25 | จอง |
02 เม.ย. 68 - 09 เม.ย. 68 | 90,888 บาท | 20,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 21 | จอง |
08 เม.ย. 68 - 15 เม.ย. 68 | 93,888 บาท | 20,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 25 | จอง |
25 เม.ย. 68 - 02 พ.ค. 68 | 93,888 บาท | 20,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 25 | จอง |
299/10 ซอย ลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) แขวง พลับพลา เขต วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310