จองตั๋วให้ไว...แล้วบินไปฮอกไกโด
ตะลุยเที่ยวเกาะเหนือสุดของเมืองญี่ปุ่น
การเดินทางจากไทยไป..เกาะฮอกไกโด
มีสนามบินอยู่หลายแห่งในเกาะ ไม่ว่าจะเป็นสนามบินนิวชิโตะเสะ เมืองซัปโปโร, สนามบินฮาโกดาเตะ เมืองฮาโกดาเตะ, สนามบินวักกะไน เมืองวักกะไน
สำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่เลือกมาเที่ยวที่เกาะฮอกไกโดแห่งนี้ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่มาเที่ยวที่เกาะฮอกไกโด เที่ยวในเมืองซัปโปโรเป็นเมืองแรกๆ มักจะบินมาลงที่สนามนิวชิโตเสะ หรือถ้าใครไม่สะดวกเปลี่ยนเครื่อง สนามบินนี้ก็สามารถบินตรงมาได้เลย คือง่ายและสะดวกมากๆ
การเดินทางในฮอกไกโด
รถไฟ JR : เป็นวิธีเดินทางท่องเที่ยวในฮอกไกโดที่ง่ายที่สุด เพราะมีสถานีอยู่ในทุกเมืองหลักๆ ราคาค่าโดยสารก็มีหลากหลายอีกด้วย
รถไฟใต้ดิน : มีให้บริการเฉพาะในเมืองซัปโปโรเท่านั้น มีรถไฟใต้ดินอยู่ 3 สาย คือ สายนัมโบะคุ, สายโทไซ และสายโทโฮ เดินรถโดยใช้เส้นทางเดียวกับรถโดยสารประจำทาง
รถราง : มีให้บริการในเมืองใหญ่อย่างซัปโปโรและฮาโกดาเตะ เป็นวิธีการเดินทางหลักสำหรับการท่องเที่ยวในฮาโกดาเตะเพราะเชื่อมต่อไปยังจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ หลายแห่ง
รถบัสข้ามเมือง : ข้อดีคือเป็นวิธีเดินทางที่ประหยัดที่สุดและสามารถไปสถานที่บางแห่งที่รถไฟเข้าไม่ถึงได้อีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่ เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง แบบมีเวลาเยอะหน่อย เพราะข้อเสียคือใช้เวลาเดินทางนานที่สุด
แท็กซี่ : การเดินทางด้วยแท็กซี่ในเมืองใหญ่อย่างซัปโปโร, ฮาโกดาเตะ, โอบิฮิโระ เป็นวิธีเดินทางที่สะดวกมากๆ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าค่าโดยสารก็แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน และคนขับแท็กซี่ส่วนใหญ่จะสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ ดังนั้นถ้าจะเรียกแท็กซี่ต้องเตรียมตัวเรื่องจุดหมายปลายทางให้ดี
ฮอกไกโดเป็นเกาะขนาดใหญ่ มีเมืองตั้งอยู่หลายเมือง แต่ละเมืองบนเกาะฮอกไกโดก็มีความสวยงามและมีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน เราได้นำเอาสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของแต่ละเมืองที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
สถานที่ท่องเที่ยวในฮอกไกโด
ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Gorykaku
ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Gorykaku)
ป้อมโงเรียวกาคุ หรือ ป้อมดาว 5 แฉก ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะสำหรับชมดอกซากุระที่จะบานพร้อมกันในช่วงเดือนพฤษภาคม (ฮอกไกโดเป็นเกาะอยู่ด้านบนสุด ทำให้มีดูร้อนช้ากว่าที่อื่น ซากุระก็จะบานช้ากว่าที่อื่นในญี่ปุ่นด้วย)
การเดินทาง
จากสถานีฮาโกะดาเตะ นั่งรถรางหรือรถบัสไปยังโกะเรียวคะคุโคเอ็งมาเอะ จากนั้นเดินต่อเป็นเวลา 10 นาทีไปยังโกะเรียวคะคุ มีที่จอดรถให้บริการ
โรงงานช็อคโกแลต ชิโรอิโค อิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)
โรงงานช็อคโกแลต ชิโรอิโค อิบิโตะ (Shiroi Koibito Park) ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโร(Sapporo) เชื่อเลยว่าแค่รู้ว่าเป็นโรงงานช็อปโกแลตสาวๆสายหวานก็น่าจะกรี๊ดกร๊าดกันแล้วใช่มั้ยคะ บริษัทช็อกโกแลตของท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของบริษัท คือ คุ้กกี้ Shiroi Koibio คุ้กกี้เนยสอดไส้ช็อกโกแลตขาวที่กินไปทีแทบละลายกับความอร่อย ซึ่งถือเป็นของฝากที่นิยมของฮอกไกโดเชียวล่ะค่ะ ยิ่งช่วงฤดูหนาวจะยิ่งสวยมากกว่าปกติหลายเท่า เพราะในช่วงหน้าหนาวนั้นที่โรงงานแห่งนี้จะมีการเปิดไฟ Illumination ด้วยตึกเป็นอาคารสไตล์ยุโรปจึงทำให้บรรยากาศนั้นเหมือนหลุดไปเดินอยู่ในเมืองโรแมนติคของยุโรปเลยก็ว่าได้
การเดินทาง
จาก Odori Station โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน Tozai Subway Line ไปทางทิศตะวันตกลงที่สถานี Miyanosawa Station (ใช้เวลา 15 นาที ค่าใช้จ่าย 280 เยน) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
หอนาฬิกาซัปโปโรโตเคได (Sapporo Tokeidai)
หอนาฬิกาซัปโปโร Sapporo Clock Tower
ใกล้ๆกับศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า ยังมีหอนาฬิกาซัปโปโร เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ใครมาเมืองซัปโปโรไม่ควรพลาด ตัวอาคารของหอนาฬิกาสร้างขึ้นต้นสมัยพัฒนาซัปโปโร ในปี 1878 ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของวิทยาลัยเกษตรซัปโปโร ตัวเรือนนาฬิกาซื้อมาจากกรุงบอสตัน โดยปัจจุบันนั้นหอนาฬิกาแห่งนี้ได้มีการปรับปรุงจนกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้เข้ามาชมกัน ภายในนั้นมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสิ่งก่อสร้าง โดยแบ่งออกเป็น 2 ชั้นด้วยกัน ในส่วนของชั้นที่ 1 จะเน้นการจัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราว เกร็ดความรู้ และประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร และในส่วนที่ชั้น 2 จะจัดแสดงเกี่ยวกับนาฬิกา และยังมีส่วนห้องโถงสำหรับทำพิธีการต่างๆที่กว้างขวาง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่ามาแวะเป็นจุดแรกก่อนไปเที่ยวในส่วนอื่นๆของซัปโปโรเลยทีเดียว
การเดินทาง
JR Sapporo Station (JR Line, Subway Namboku Line, Subway Toho Line) และเดิน 10 นาทีจาก Southern entrance *หอนาฬิกาอยู่ห่างออกไปสี่ช่วงตึก
ตลาดปลานิโจ
เมื่อกล่าวถึงฮอกไกโดแล้วคือตัวแทนของ “ความอร่อย” ของฮอกไกโดจะมารวมกันที่ซัปโปโร และจะคับคั่งด้วยนักท่องเที่ยวและชาวซัปโปโรที่มาซื้อของทะเลหรือพืชผักผลไม้จากที่ต่างๆ ของฮอกไกโด “ตลาดปลานิโจ” ที่อยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรก็มีชื่อเสียงในฐานะเป็นตลาดที่มีมาตั้งแต่สมัยเมจิ หากต้องการชิมอาหารอร่อยตามฤดูกาลของฮอกไกโดอย่างง่ายๆ หละก็ เชิญที่ตลาดได้เลย ขอเชิญเพลิดเพลินไปกับการชิมข้าวหน้าอาหารทะเลและซูชิ ที่ใช้อาหารทะเลสดๆ ที่เพิ่งซื้อมาในตอนเช้าอย่างเต็มที่ และขอเชิญรรับประทานปูเป็นๆ ในอ่างที่นำมาลวกน้ำร้อน … เป็นความอร่อยที่มีเฉพาะในตลาดเท่านั้น
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าจะไปปักหมุดมากๆและน่าจะถูกใจคอเบียร์อย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ เพราะฮอกไกโดนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตเบียร์ครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่น เมืองซัปโปโรจึงเป็นแหล่งผลิตที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นยี่ห้อที่นิยมที่สุดในประเทศ ซึ่งมีการกลั่นเบียร์ตั้งแต่ ปี ค.ศ.1877 มาจนถึงปัจจุบัน และยังส่งออกไปทั่วโลกอีกด้วย ที่นี่จึงถือเป็นแหล่งที่เราจะสามารถเรียนรู้ถึงสินค้าที่มีชื่อเสียงที่ไม่ได้โด่งดังแค่ระดับประเทศนะคะ เพราะแบรนด์เบียร์ของฮอกไกโดนี้มีชื่อเสียงดังไกลระดับโลกเลยเชียวล่ะค่ะ
วิธีการเดินทาง
จาก Odori Station หรือ หน้าห้างสรรพสินค้า Seibu ใกล้กับ Sapporo Station โดยสารรถบัส Loop 88 Factory Line bus (บัสออกทุกๆ 20 นาที ค่าใช้จ่ายเที่ยวเดียว 210 เยน)
เดินจาก JR Sapporo Station ไป 25 นาที
เดินจาก Higashi-kuyakusho-mae Station ไปทาง Toho Subway Line ประมาณ 15 นาที
สวนสาธารณะโอโดริ(Odori Park)
สวนสาธารณะโอโดริ(Odori Park) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร แบบว่าถ้ามาถึงบริเวณกลางเมืองแล้วเห็นแน่ๆเพราะมันโดดเด่นมากๆเลยล่ะค่ะ ซึ่งแยกเมืองออกเป็นสองฝั่ง สวนแห่งนี้ในช่วงฤดูร้อนนี่ก็จะเป็นเสมือนแหล่งโอเอซิสของเมืองที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีและดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ ยิ่งในช่วงฤดูหนาวนี่เรียกว่าสำคัญมากๆ เพราะจะเป็นสถานที่หลักในการจัดเทศกาลหิมะซัปโปโรนั่นเองค่ะ
การเดินทาง
สวนสาธารณะโอโดริ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Odori Subway Station
เดินจาก JR Sapporo Station ไปประมาณ 10 นาที
สถานีรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายของซัปโปโร เชื่อมต่อกับสถานี Odori Subway Station ทั้งหมด
ภูเขาโมอิวะ
ภูเขาโมอิวะ(Mount Moiwa) นับเป็นหนึ่งในภูเขาเล็กๆ ในป่าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของใจกลางเมืองซัปโปโร ที่บอกเลยว่าฮอตฮิตมากๆเป็นอันดับต้นๆของเมืองเลยนะคะ โดยภูเขาแห่งนี้ขึ้นชื่อมากกับการเป็นจุดชมวิวเมืองที่ดีงามแบบสุดๆ การขึ้นไปยอดเขาก็สบายมากค่ะขนาดมาเป็นครอบครัวมีเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ก็น่าจะโอเค เพราะสามารถขึ้นได้ด้วยการนั่งกระเช้าขึ้นไปที่ระดับความสูง 3 ใน 4 ของภูเขา จากนั้นเปลี่ยนมานั่งมินิเคเบิ้ลคาร์ เพื่อขึ้นไปยังสถานีด้านบนยอดเขา บนยอดเขามีดาดฟ้าชมวิว ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพทั่วเมืองซัปโปโร บ้านท้องฟ้าจำลอง และโรงละคร ช่วงที่เรียกได้ว่าวิวสวยแบบลืมหายใจต้องยกให้ช่วงพระอาทิตย์ตกดินเป็นต้นไป บอกเลยว่ามาแล้วจะติดใจนะเออ และถ้าอยากจะฟินใช้เวลาอยู่กับที่นี่ให้นานที่สุดแนะนำให้พักใกล้ๆ อย่างสกีรีสอร์ทภูเขาโมอิวะ ตั้งอยู่ทางลาดที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของภูเขา ซึ่งต้องเดินทางออกมาจากเมืองซัปโปโรก็ดีงามไม่น้อยเลยค่ะ
การเดินทาง
รถขนส่งสาธารณะ
จาก Susukino โดยสาร Sapporo's only streetcar line ลงที่ Ropeway Iriguchi Station(ใช้เวลา 25 นาที ค่าใช้จ่าย 170 เยน) จากนั้นนั่งรถบัสรับส่งฟรีไปยังสถานีกระเช้าด้านล่าง(ใช้เวลา 5 นาที ออกทุกๆ 20 นาที) หรือจาก Ropeway Iriguchi streetcar stop ถึงสถานีกระเช้า Mount Moiwa เดินไปเพียงแค่ 5 นาที
รถยนต์
ใช้ทางหลวง KanKo Highway ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เปิดให้บริการตั้งแต่กลางเดือนเมษายน-พฤศจิกายน 9:00-23:00 (เดือนตุลาคม และพฤศจิกายน วิ่งได้ถึง 22:00) ค่าใช้จ่าย 660 เยน
โจซังเค (ออนเซ็น)
โจซังเค (ออนเซ็น) เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ณ อุทยานแห่งชาติชิโคสึ-โทยะ ที่มีโรงแรมเรียวกังกว่า 20 แห่ง และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของฮอกไกโด ที่มีผู้มาเยี่ยมเยือนกว่า 1.4 ล้านคนต่อปี พระสงฆ์ชื่อมิซุมิ โจซังได้สร้างสปาบริเวณตอนบนของแม่น้ำใน ค.ศ. 1866 สัมผัสความพิเศษของน้ำที่มีสรรพคุณในการรักษา จากนั้นพื้นที่นี้ก็ค่อย ๆ เป็นที่รู้จัก
พลาดไม่ได้ฤดูใบไม้ร่วงในโจซังเคที่ภูเขาต่าง ๆ และแม่น้ำโทโยฮิระถูกแต่งแต้มด้วยสีของใบไม้ร่วง
พายเรือแคนูใต้สะพานนิชิกิ
ถ่ายรูปกัปปะหรือพรายน้ำตัวเล็กที่เป็นมาสคอตของโจซังเค
การเดินทาง
โรงแรมหลายแห่งมีบริการรถรับส่งจากสถานีซัปโปโร หรือสถานีรถไฟใต้ดินมะโคะมะไน รถบัสสายกัปปะจะวิ่งจากสถานีซัปโปโร สถานีโอโดริ และสถานีซุซุกิโนะไปยังโจซังเคอนเซ็น 13 เที่ยวต่อวัน แต่ต้องทำการจองล่วงหน้า การเดินทางด้วยรถบัสสายนี้ใช้เวลาประมาณ 75 นาที ส่วนการเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 40 นาที
สวนสัตว์มารูยามะ
สวนสัตว์มารุยามะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับทั้งครอบครัวที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองซัปโปโร ซึ่งรายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี "ทำความรู้จักกับธรรมชาติ" เป็นแนวความคิดการออกแบบของสวนสัตว์ที่เห็นได้ทั่วทุกแห่ง ซึ่งมีการกำหนดการจัดแสดงให้แสดงพฤติกรรมของสัตว์ให้ดีที่สุด จะพลาดไม่ได้ กับการได้เรียนรู้จากผู้ดูแลในช่วงเวลาพิเศษในการให้อาหาร และความหลากหลายของสัตว์ในสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียง
วิธีการเดินทาง
สวนสัตว์สามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยรถบัส (30 นาที) หรือรถไฟใต้ดิน (7 นาที) จากสถานีซัปโปโร ทั้งสองเส้นทางนั้นต้องมีการเดินเท้า ดังนั้นการนั่งแท็กซี่ไปถึงสวนสัตว์โดยใช้เวลา 20 นาทีจึงเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุด
สวนนากาจิมะ(Nakajima Koen)
สวนนากาจิมะ(Nakajima Koen) ตั้งอยู่กลางค่อนไปทางทิศใต้ของเมืองซัปโปโร (Sapporo) ที่นี่ถือว่าเป็นสวนสาธารณะวิวดีบรรยากาศอย่างเยี่ยมและยังเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซัปโปโรด้วยนะคะ ยิ่งมาช่วงเย็นๆวันฟ้าโปร่งๆรับลมและยังได้นั่งเพลินไปกับวิวริมแม่น้ำอีกต่างหาก เพราะที่นี่นั้น มีแม่น้ำ Kamo-kamo ที่ไหลมาจากแม่น้ำ Toyohira กลางสวนมีสระน้ำขนาดใหญ่ ต่อมามีการสร้าง Sapporo Concert Hall และรอบๆสวนก็มีการสร้างคอนโดมิเนียมมากมาย เรียกได้ว่าเป็นสวยสวยกลางเมืองที่ใครๆก็สามารถมาสูดอากาศบริสุทธิ์ได้แบบไม่จำกับเลยล่ะค่ะ
วิธีการเดินทาง
รถไฟใต้ดินสาย Namboku สถานี Nakajima Koen ทางออก 3 จะขึ้นมาในสวนทางเข้าด้านทิศเหนือ นั่งรถรางลงที่สถานี Nakajima Koen Dori เดินไป 100 เมตร จะเข้าประตูด้านทิศตะวันตก
ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (ทำเนียบอิฐแดง)
ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (ทำเนียบอิฐแดง) เป็นอาคารที่สร้างขึ้นจากอิฐสีแดงในปีค.ศ 1888 ในรูปแบบอเมริกันนีโอบาโรก อาคารซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฮอกไกโดแห่งนี้ เป็นสถานที่จัดนิทรรศการทางประวัติศาสตร์ ร้านค้าพิพิธภัณฑ์ ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว และห้องประชุม
จะพลาดไม่ได้กับ การจัดแสดงทางประวัติศาสตร์และงานนิทรรศการด้านศิลปะบนชั้นแรกและชั้นสอง งานที่จัดขึ้นตามฤดูกาล อย่างการเต้นรำโยซะโคอิที่ด้านหน้าอาคาร แผงขายอาหารและตลาดกลางแจ้งด้านหน้าสวนในฤดูร้อน
วิธีการเดินทาง
ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (ทำเนียบอิฐแดง) ใช้เวลาเดินจากทางออกที่ 10 ของสถานีซัปโปโรเพียง 4 นาที หรือเดิน 8 นาทีจากประตูทางออกทิศตะวันตก
สวนป่ามาเอดะ (Maeda Forest Park)
สวนป่ามาเอดะ (Maeda Forest Park) คือชื่อของสวนสาธารณะในเขตเทเนะ (Teine-ku) เมืองซัปโปโร (Sapporo) พื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งภายในสวนปกคลุมด้วยป่าไม้ และบนผืนสนามหญ้ากว้างใหญ่เขียวขจีมีคลองที่ทอดตัวยาวราว 600 เมตรไปทางภูเขาเทเนะ (Mt. Teine) ให้เราได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามเหมือนกับกำลังอยู่ต่างแดน และที่นี่เป็นจุดชมดอกวิสทีเรีย (Wisteria) ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งบนเกาะฮอกไกโด ช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นไม้ต่างๆ จะเปลี่ยนเป็นสีสันสดใส และช่วงฤดูหนาวสามารถสนุกสนานเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนหิมะได้ เช่น สกีครอสคันทรีและสโนว์บอร์ด
การเดินทาง
จากสถานีรถไฟใต้ดิน Kitajunijo ขึ้นรถ Chuo Bus ไปลงที่ป้าย Maedamori Koen Iriguchiจากนั้นเดิน 1 นาที
ย่านซูซูกิโนะ(Susukino)
ย่านซูซูกิโนะ(Susukino) นับเป็นย่านที่เต็มไปด้วยแหล่งบันเทิงที่โด่งดังมากที่สุดของเมืองซัปโปโร(Sapporo) อีกทั้งยังเรียกได้ว่าเป็นย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในทางตอนเหนือของญี่ปุ่นทีเดียวล่ะค่ะ บอกเลยว่าอยากมาบันเทิงเริงใจยามค่ำคืนสัมผัสไลฟ์สไตล์แบบคนญี่ปุ่นแท้ๆต้องมาที่นี่ให้ได้เลยล่ะค่ะ เพราะเต็มไปด้วยร้านค้า บาร์ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ และตู้ปาจิงโกะ รวมกว่า 4,000 ร้าน บางร้านนี่เปิดจนถึงเที่ยงเที่ยงคืนหรือมากกว่านั้นก็มีนะคะ แต่ถ้าท้องหิวเรียกร้องอยากลิ้มรสของอร่อยต้องมาตำที่ร้านก๋วยเตี๋ยวราเมน Yokochoที่ตั้งอยู่บริเวณซอยแคบๆแลดูลึกลับซับซ้อน ซึ่งบอกเลยว่าราเมน Yokochoนี่มีชื่อเสียงโด่งดังมากทีเดียวนะคะ อีกทั้งยังมีร้านอาหารอีกเพียบไว้ให้ได้ลองเข้าไปแวะชิมรสชาติแบบคนซัปโปโรแท้ๆเค้ากินกัน ยิ่งช่วงที่พีคมากๆต้องยกให้ในฤดูหนาวราวๆเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีนี่แหล่ะค่ะ เพราะจะมีการจัดเทศกาลหิมะยังเป็นเจ้าภาพการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งที่แถวย่านซูซูกิโนะ เรียกได้ว่าเป็นทีเด็ดของเมืองซัปโปโรที่มีชื่อเสียงระดับโลกเลยนะคะ ถือว่าเป็นย่านความบันเทิงแห่งซัปโปโรที่ถ้าไม่ลองมาล่ะก็เสียใจแย่แน่ค่ะ
การเดินทาง
จาก Odori Station นั่งไปเพียงสถานีเดียว ลงที่ Susukino Station(200 เยน)
จาก Sapporo Station โดยสาร Nanboku Subway Line นั่งไป 2 สถานี(200 เยน)
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด ตั้งอยู่ในสวนป่าโนะโปโร ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งฮอกไกโด
โดยการย้ายสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์ซึ่งบอกเล่าถึงเศรษฐกิจการค้า วิถีชีวิต วัฒนธรรมของฮอกไกโดในช่วงบุกเบิกผ่านยุคสมัยทั้ง 3 คือยุคเมจิ ไทโช โชวะ จากหลากหลายพื้นที่มาสร้างใหม่และบูรณะซ่อมแซมเก็บรักษาไว้
แบ่งพื้นที่หมู่บ้านเป็น 4 โซนคือตัวเมือง หมู่บ้านเกษตร หมู่บ้านภูเขา
หมู่บ้านประมง โดยจำลองภูมิทัศน์จากยุคสมัยนั้นด้วย ดังนั้นเพียงก้าวเข้าไปแค่ก้าวเดียวก็สามารถสัมผัสความรู้สึกของการอยู่ในฮอกไกโดเมื่อกว่า 100 ปีก่อนได้
แนะนำให้เที่ยวชมในฤดูร้อนด้วยรถรางเลื่อนเทียมม้า และในฤดูหนาวด้วยเลื่อนสกีเทียมม้า
มีการจัดการอบรมหลักสูตรระยะสั้นการประดิษฐ์เครื่องเล่นสมัยโบราณ งานฝีมือจากฟางและอื่นๆ เป็นครั้งคราว ทำให้สามารถได้รับประสบการณ์ขนมธรรมเนียมวัฒนธรรมในสมัยยุคบุกเบิกได้
เฉพาะในฤดูหนาวมีการจัดกิจกรรม`ประสบการณ์การใช้ชีวิตในฤดูหนาว` ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการเรียนรู้ความยากลำบากของการใช้ชีวิตใน
ฤดูหนาวในยุคบุกเบิก
การเดินทาง
Shin Sapporo Station (JR Line, Tozai Subway Line), ใช้รถบัสประจำทาง No.22 Kaitakunomura ไปลงที่หมู่บ้าน *สุดสาย-ป้ายจอดสุดท้าย ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
299/10 ซอย ลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) แขวง พลับพลา เขต วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310